เวลาที่คนเลือกซื้อบ้านในทำเลต่างๆ สิ่งที่คำนึงถึงในอันดับต้นๆ คือ ใกล้ที่ทำงานตนเอง ใกล้โรงเรียนลูก ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น โรงพยาบาล สถานศึกษา หรือห้างสรรพสินค้า สิ่งที่ผู้ซื้อบ้านส่วนใหญ่คาดหวังคือได้บ้านสวย คุณภาพดี เดินทางสะดวก โดยปกติคนเรามักไม่นิยมเปลี่ยนหรือย้ายบ้านกันบ่อยนักถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เพราะนอกจากเหนื่อยในการเก็บข้าวของทั้งตอนขนย้ายออกและย้ายเข้าแล้ว ยังต้องปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมใหม่ เช่น เพื่อนบ้าน เส้นทางคมนาคม หรืออื่นๆ อีกจิปาถะ แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น คุณมีบ้านที่พัทยาแต่จำเป็นต้องย้ายถิ่นฐานไปจังหวัดอื่น หลายคนอาจกังวลว่าจะขายบ้านพัทยาเดิมอย่างไรดี จะประกาศขายเองดีมั้ยหรือควรใช้บริการรับฝากขายกับตัวแทนดี เพราะหากคุณต้องตระเวนหาบ้านใหม่ในอีกจังหวัดหรือทำเลอื่น และต้องเดินทางกลับมาบ้านเก่าบ่อยๆ เพื่อพาผู้สนใจมาเยี่ยมชมบ้าน สถานการณ์แบบนี้เรียกได้ว่าเหนื่อยสองทาง…เครียดสองเท่าเลยทีเดียวล่ะค่ะ ใจเย็นๆ นะคะ วันนี้เรามีข้อมูลดีๆ ในการขายบ้านพัทยาด้วยการเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียระหว่างการขายบ้านพัทยาด้วยตัวเองหรือใช้ตัวแทนรับฝากขายมาฝากกันค่ะ เผื่อว่าจะช่วยคุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นยังไงล่ะคะ # 1. การขายบ้านพัทยาด้วยตนเอง ▪ ข้อดี ◊ ไม่ต้องเสียค่านายหน้า เพียงคุณติดประกาศหน้าบ้านหรือฝากเพื่อนๆ คนสนิทบอกต่อๆ กันไป หรืออาจโฆษณาบน Facebook หรือ Social Media อื่นๆ ที่เป็นหน้า page ของคุณเองก็สามารถกระจายข้อมูลออกไปได้ในระดับหนึ่ง ขึ้นอยู่กับ…

ใคร ๆ ก็อยากอยู่บ้านที่มีความสุขเงินทองไหลมาเทมาด้วยกันทั้งนั้น คุณรู้ไหมว่ามันมีวิธีการจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ยที่ทำแบบนี้ความโชคดีความมั่งคั่งจะหลั่งไหลมา ลองมาดูลักษณะของบ้านที่ส่งผลดังกล่าวว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างนั้น มาติดตามกันเลย   1.ปลูกต้นสนเสริมฮวงจุ้ย คุณรู้ไหมว่าต้นสนเป็นไม้มงคลที่ควรปลูกไว้ในบ้านจะช่วยส่งเสริมในเรื่องของโชคลาภ ความรักและช่วยเสริมการทำงานของคนในบ้านได้ดีอีกด้วยคนปลูกต้นสนบริเวณหน้าบ้านให้ขนาบทั้งทางด้านซ้ายและด้านขวาตัวเอง การทำเช่นนี้คุณจะเห็นว่าชีวิตคุณเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น   2.มีสระน้ำหน้าบ้าน บ้านใครที่มีสระน้ำหรือบ่อน้ำอยู่บริเวณหน้าบ้าน ต้องขอบอกว่าดีมาก ๆ เลย เพราะถือว่าเป็นทำเลทองเป็นบ้านที่อยู่แล้วมีความสุข สระน้ำจะช่วยให้คนในบ้านมีความอุดมสมบูรณ์สร้างความร่ำรวย นอกจากนี้ยังทำให้บ้านร่มเย็นอีกด้วย   3.ปลูกต้นไม้สีเขียว ต้นไม้เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญงอกงาม ความรุ่งเรือง การเติบโต บ้านไหนที่ปลูกต้นไม้ไว้โดยรอบก็จะได้รับพลังงานดีที่คอยส่งเสริมให้มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง รู้แบบนี้แล้วมาปรับฮวงจุ้ยรับความรุ่งเรืองด้วยการปลูกต้นไม้กันดีกว่า   4.บ้านที่อยู่ริมน้ำ บ้านที่อยู่ริมน้ำเป็นบ้านที่หลาย ๆ คนอยากได้ เพราะจัดเป็นบ้านที่มีฮวงจุ้ยดีมาก ยิ่งถ้ามีแม่น้ำโค้งโอบเข้าหาตัวบ้านยิ่งดีเลย จะทำให้เราได้รับพลังงานที่ดี ช่วยส่งเสริมให้ประสบความสำเร็จ ความสุข ความมั่งคั่งในชีวิต   5.บ้านหันหน้าไปทางทิศใต้ บ้านคุณหันหน้าไปทิศไหน ถ้าเป็นทิศใต้แล้วล่ะก็ขอบอกว่ามีความมงคลตามหลักฮวงจุ้ยเลยล่ะ บ้านที่หันทิศนี้จะมีกระแสลมพัดผ่านที่ดี ซึ่งจะนำพลังดี ๆ เข้าสู่ตัวบ้าน ทำให้คนอยู่อาศัยมีโชคลาภและอยู่เย็นเป็นสุข   6.ประตูหน้าบ้านดีมีชัย ประตูหน้าบ้านก็มีส่วนช่วยส่งเสริมโชคลาภและความร่ำรวย หากประตูบ้านของคุณอยู่ทางด้านซ้ายมือของตัวบ้าน เพราะเป็นตำแหน่งที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลาในการเปิด-ปิด หากบ้านของคุณมีประตูที่ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกหลักฮวงจุ้ยดังกล่าวเห็นทีต้องพิจารณาแก้ไขแล้วล่ะ   7.บันไดบ้านบันดาลโชค…

ต้องยอมรับว่าที่อยู่อาศัยที่จัดตามหลักฮวงจุ้ย สามารถรับทรัพย์ทำให้มั่งคั่งร่ำรวยขึ้นได้จริง เราจะเห็นความแตกต่างของคนที่จัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย กับบ้านที่จัดไม่ถูกตามหลักฮวงจุ้ย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็เกี่ยวกับเรื่องของการเงิน โชคลาภ ความร่ำรวย ที่หลายคนปรารถนา สำหรับคนที่รู้สึกว่าการเงินไม่ได้เป็นไปตามใจปรารถนาก็เห็นทีต้องมาเปลี่ยนการจัดบ้านใหม่กันสักหน่อยจะมีวิธีไหนบ้างนั้น มาดูกันเลย   1. เปิดบ้านให้โล่งต้อนรับพลังงานดี ๆ คงกล่าวไม่ผิดเกี่ยวกับการจัดบ้านที่ว่าถ้าเราจัดบ้านดีก็มีแต่เรื่องมงคล พลังงานดีตามหลักฮวงจุ้ยที่ทำให้เราเข้าใจได้ เช่น เราควรทำบ้านให้โล่งไว้ก่อน โดยการจัดข้าวของอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อให้พลังงานดีหมุนเวียนในบ้าน และต้องคอยหมั่นทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอ เพราะสิ่งสกปรกทั้งหลายแหล่นั้นมันคืออุปสรรคชีวิตชนิดหนึ่งเลยทีเดียว   2.เลือกสีดีมีชัยช่วยให้มั่งคั่งร่ำรวย สีที่มีส่วนช่วยเสริมความมั่งคั่งนั้นที่แนะนำกันส่วนใหญ่จะเน้นสีทอง ซึ่งเป็นเครื่องหมายของความหรูหราร่ำรวย และเป็นเทรนด์สีที่กำลังได้รับความนิยม คุณอาจไม่ต้องถึงกับทาสีผนังบ้านให้เป็นสีทองแบบเน้นขนาดนั้น แค่เพียงเลือกเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งบ้านที่มีสีทองผสมอยู่ เช่น กรอบรูปสีทอง โคมไฟสีทอง พานสีทอง เป็นต้น แต่ถ้าใครไม่ชอบสีทอง ก็มีทางเลือกอีกทางคือการใช้สีม่วงโทนหรูหราแทนก็ได้ผลเช่นกัน   3.คิดถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาบูชาในบ้านย่อมช่วยเสริมสิริมงคลได้ อาจนำยันต์แปดเหลี่ยมมาไว้ในทิศเหนือและต้องเป็นจุดศูนย์กลางของบ้าน ห้ามนำไปตั้งไว้ในห้องน้ำ ห้องซักรีด หรือโรงรถเป็นอันขาด ตรงส่วนของแท่นบูชาควรหาอัญมณีมาประดับเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลยิ่งขึ้น   4.ใช้พลังธรรมชาติมาตกแต่บ้าน เรารู้กันอยู่ว่าพลังในธรรมชาติเป็นพลังงานดีที่เต็มไปด้วยความมั่งคั่งแหล่งหนึ่ง การนำต้นไม้ใบเขียว หรือต้นไม้มงคลมาประดับภายในบ้านย่อมดึงดูดความมั่งคั่งเข้ามา ทำให้คนในบ้านเฮง ๆ ควรวางต้นไม้ไว้ในทิศตะวันออก ทิศใต้…

หลาย ๆ คู่อาจประสบปัญหาชีวิตคู่ที่ความสัมพันธ์ไม่ดีนัก ทำให้รู้สึกถึงความทุกข์ในใจที่สะสม การลองเปลี่ยนวิธีการหรือปรับฮวงจุ้ยภายนอก อาจทำให้ความสัมพันธ์เปลี่ยนแปลงดีขึ้นอย่างคิดไม่ถึงเลยก็เป็นได้ ลองมาดูความสัมพันธ์ที่เป็นปัญหาและนำการปรับฮวงจุ้ยมาช่วยในการแก้ปัญหากัน   1.อยากมีบุตร เป็นความทุกข์ในใจลึก ๆ ของคู่สามีภรรยาเหมือนกัน ที่รอคอยบุตรมาเกิดแต่ไม่มาสักที ลองจัดห้องนอนใหม่กันดีกว่า โดยการสร้างบรรยากาศให้อบอุ่น อาจใช้โคมไฟแทนหลอดไฟนีออน ข้าวของอย่าให้รก ทิศของการหันเตียงก็มีผลต่อการได้ลูกชายหญิง ถ้าหันเตียงไปทางทิศใต้ ทิศตะวันตก-ออกเฉียงใต้ หรือทิศตะวันตก จะได้ลูกสาว ถ้าหันเตียงไปทางทิศเหนือ ทิศตะวันออก-ตะวันออกเฉียงเหนือ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะได้ลูกชาย  ลองปรับเปลี่ยนกันดูและจะรู้ว่าเป็นจริงตามนั้น   2.ความสัมพันธ์ไม่ไปไหน ก็เป็นความทุกข์ใจไม่น้อยที่ความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่ไม่คืบหน้าเอาเสียเลย เป็นเพราะอะไรกันแน่ ลองเดินดูริมหน้าต่างห้องนอกสักหน่อยว่ามีต้นไม้ยืนแห้งเหี่ยวหรือไม่ ถ้ามีต้องรีบจัดการตัดต้นไม้ออก โดยเฉพาะบริเวณหน้าบ้านริมหน้าต่างห้องนอน แล้วปลูกต้นไม้ที่มีความสมบูรณ์ออกดอกสวยงามมีกลิ่นหอมมาแทน เชื่อได้เลยว่าต่อแต่นี้คุณจะรักและเข้าใจกันมากขึ้น   3.ชีวิตไม่สดชื่นแห้งแล้งพิกล แบบนี้มันเหี่ยวเฉา ลองเอาปลาเงินปลาทองมาเลี้ยงสัก 6 8 หรือ 9 ตัว จะเป็นมงคลมาก ๆ ทำให้ฐานะการเงิน โชคลาภของคนในบ้านเริ่มกระเตื้องขึ้น และจิตใจของคนในบ้านก็แจ่มใสด้วย ควรหมั่นทำความสะอาดตู้ปลาให้สดใสสะอาดอยู่เสมอ   4.ความรักมักมีอุปสรรค รักที่มีอุปสรรคคงกวนใจน่าดูหามีความสุขไม่ ลองหาไผ่หรือต้นไม้ที่มีใบเขียวสดอุดมสมบูรณ์มาปลูกตรงแนวริมรั้วหน้าบ้างและข้างบ้านให้ร่มครึ้ม…

หากพูดถึง “ศรีราชา” ในด้านความบูมของอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้ บ้านมือสองศรีราชา เรียกได้ว่าไม่น้อยหน้าพัทยา บางแสน หรือท่าเรือแหลมฉบังแต่อย่างใด ดูได้จากโครงการต่างๆ ที่มีเจ้าของทั้งจากส่วนกลางคือกรุงเทพมหานคร หรือคนในพื้นที่ศรีราชาเองที่กำลังผุดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นในแนวราบ ได้แก่ ทาวน์เฮ้าส์หรือบ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียมเพื่ออยู่อาศัยและปล่อยเช่า ไปจนถึงโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวกันเลยทีเดียว บ้านมือสองศรีราชากำลังซื้ออสังหาฯ มาจากไหน ส่วนหนึ่งมาจากแรงงานในภาคนิคมอุตสาหกรรมที่หลั่งไหลเข้าไปทำงานในพื้นที่และจำเป็นต้องซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยหรือเช่าบ้านพักนั่นเอง ซึ่งคนกลุ่มนี้นิยมบ้านแบบทาวน์เฮ้าส์บริเวณรอบๆ นิคมอุตสาหกรรมเป็นหลัก หรือจะเป็นกลุ่มนักลงทุนไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น จนศรีราชาได้รับการขนานนามให้เป็น “Little Osaka” ไปเสียแล้ว “ศรีราชา” กับศักยภาพในวันนี้ หากมองจากศัพยภาพที่ศรีราชามีในขณะนี้ คงไม่แปลกใจนักหากจะมีคนที่ต้องการซื้อบ้านในพื้นที่เพื่ออยู่อาศัยเอง หรือแม้แต่เพื่อปล่อยเช่าให้แก่กลุ่มคนทำงานที่อาจยังไม่แน่ใจว่าตนเองจะอยู่ประจำที่นั่นเป็นเวลานานเพียงใด จึงยังไม่ตัดสินใจซื้อบ้านในทันที ในขณะเดียวกันกับที่คนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งมีพื้นเพในศรีราชาเองแต่อาจจำเป็นต้องย้ายถิ่นฐานไปที่อื่น หรือกลุ่มนักลงทุนอสังหาฯ ที่ซื้อไว้เก็งกำไรมาก่อนหน้านี้ก็เห็นว่าเป็นโอกาสที่จะขายบ้านได้ในราคาดีและได้ผลกำไรงาม ในการขายบ้านมือสองศรีราชา ทำอย่างไรดีหากอยากซื้ออยากขายบ้านมือสองศรีราชา ถึงแม้จะมีเม็ดเงินมหาศาลที่กำลังหลั่งไหลเข้าไปที่ศรีราชาทำให้มีทั้งคนอยากซื้อและอยากขายที่พักอาศัย บ้านมือสองศรีราชา อย่างไรก็ตาม การจะหาซื้อบ้านสักหลังก็อาจไม่ใช่เรื่องง่ายไปเสียทีเดียว หากคุณไม่ใช่คนในพื้นที่หรือไม่มีคนในพื้นที่รู้จักที่ช่วยแนะนำได้ และการตระเวนไปตามทำเลต่างๆ ทั่วศรีราชาอาจต้องใช้เวลาพอสมควร ในขณะที่การขายต่อบ้านของตัวเองเองสักหลังก็เล่นเอาเหงื่อตกได้พอๆ กัน ทำให้คนบางกลุ่มนิยมที่จะใช้บริการของตัวแทนซึ่งสะดวกและอาจเห็นผลเร็วกว่า   เพราะการใช้บริการกับตัวแทนโดยเฉพาะที่เป็นคนในพื้นที่ด้วยแล้ว ย่อมช่วยให้คุณมีข้อมูลเชิงลึกในการตัดสินใจได้ดีกว่า เปรียบได้กับคนที่ไปท่องเที่ยวต่างประเทศและนิยมซื้อแพ็กเกจทัวร์กับบริษัทท่องเที่ยว เพราะไม่อยากเสียเวลาทำการบ้านในการค้นหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก แหล่งกินแหล่งช็อปด้วยตนเอง…

“การนอนหลับ” คือการพักผ่อนที่ดีที่สุดที่ร่างกายต้องการ บ่อยครั้งที่ปัญหาการนอนไม่หลับทำให้เกิดปัญหาเรื้อรังลุกลามไปยังเรื่องอื่นๆ ด้วย เช่น การทำงาน ชีวิตรัก สุขภาพ เพราะคนที่พักผ่อนไม่เพียงพอมักจะอารมณ์ฉุนเฉียวได้ง่าย สมองไม่แล่น คิดอะไรช้า ไม่กระชุ่มกระชวย และเป็นบ่อเกิดแห่งโรคร้ายนานาชนิดเลยก็ว่าได้ ตามหลัก ตำแหน่งฮวงจุ้ยห้องนอน ห้องนอนจึงถือว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของบ้านที่ชี้บ่งสุขภาพของผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี แต่จะจัดห้องนอนตาม ตำแหน่งฮวงจุ้ยห้องนอน อย่างไรที่ช่วยส่งเสริมการนอนให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น สามารถนอนหลับฝันหวานและไม่ตกใจตื่นยามวิกาลบ่อยๆ วันนี้เรามีสาระดีๆ นำมาฝากกันค่ะ   ลักษณะการจัดห้องนอนที่ดีตามหลักตำแหน่งฮวงจุ้ยห้องนอน ▪ รูปทรงห้องนอน ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว รูปทรงห้องนอนที่ดีควรเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส หากเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าให้หาตู้มากั้นแยกสัดส่วนของห้องให้ส่วนที่วางเตียงนอนเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส เหตุผลน่าจะมาจากความรู้สึกโปร่งโล่งสบายของห้องสี่เหลี่ยมจตุรัสนั้นมีมากกว่าห้องรูปทรงอื่นนั่นเอง ผู้นอนจะไม่รู้สึกว่าตนเองนอนชิดด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไปจนอึดอัด   ▪ เพดานห้องนอน ควรมีระดับเสมอกัน ไม่ควรลาดเอียง เพราะหากวางเตียงไว้ตรงจุดเพดานต่ำสุดจะทำให้ผู้นอนรู้สึกใกล้เพดานมากจนเกินไป จนนอนหลับไม่สบาย การถ่ายเทอากาศก็ไม่ดี ตามหลัก ตำแหน่งฮวงจุ้ยห้องนอน แถมในหน้าร้อนไอความร้อนจากแสงแดดที่สะสมไว้ตลอดช่วงกลางวันบริเวณหลังคาและฝ้าเพดานจะถูกปล่อยออกมาในตอนกลางคืนและสัมผัสกับผู้นอนได้มากที่สุดอีกด้วย หากแก้ไขไม่ได้ควรวางตำแหน่งเตียงนอนให้อยู่ฝั่งที่เพดานสูงที่สุด ▪  ตำแหน่งเตียงนอน ห้ามวางเตียงนอนใกล้ประตูห้องน้ำ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้หาฉากกั้น สำหรับข้อนี้น่าจะมาจากเรื่องความชื้นภายในห้องน้ำ หากนอนทั้งคืนติดต่อกันนานๆ อาจมีผลต่อสุขภาพ รวมถึงเสียงจากการกดชักโครกในตอนกลางดึกของผู้ที่นอนร่วมห้องกับคุณ อาจทำให้คุณรู้สึกตัวตื่นได้ นอกจากนี้เตียงนอนก็ไม่ควรอยู่ใกล้ประตูเข้าออกของห้องนอนมากเกินไปนัก เพราะหากอีกคนกำลังหลับสนิท แต่อีกคนเปิดประตูเข้าออกบ่อยๆ ก็เป็นการรบกวนคนที่กำลังนอนได้เช่นเดียวกัน…

หลังจากที่ผ่านพ้นวิกฤตหน้าร้อนที่ปรอทพุ่งปรี้ดจนแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ กันมาแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะได้ชุ่มฉ่ำกับสายฝนกันบ้างแล้ว หลายๆ ท่านคงรู้สึกว่าถึงแม้ฝนจะทำให้รถติด น้ำท่วมขัง แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้ผ่อนคลายอุณหภูมิความร้อนแรงลงไปบ้างเหมือนกันใช่มั้ยคะ สำหรับคุณๆ เจ้าของบ้านทั้งหลาย…ไม่ทราบว่าได้เตรียมรับมือกับสิ่งที่จะตามมาในหน้าฝนกันบ้างแล้วรึยัง เพราะไม่ว่าจะเป็นบ้านเก่าหรือใหม่ ล้วนมีปัญหาคลาสสิคแบบบ้านๆ ให้คุณต้องหงุดหงิดรำคาญใจกันบ้างไม่มากก็น้อย หากคุณยังไม่รู้จะเริ่มต้นที่ตรงไหนดี วันนี้เรามีข้อแนะนำเกี่ยวกับวิธีรับมือกับหน้าฝนด้วยการตรวจเช็คสภาพบ้านมาเล่าสู่กันฟัง โดยมีจุดหลักๆ ที่มักเจอปัญหาบ่อยๆ ได้แก่ ① หลังคา/ฝ้าเพดาน ▪ ตัวบ้าน หากบ้านคุณมีอายุการใช้งานตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป (หรือแม้แต่บ้านใหม่ป้ายแดงก็อาจเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน) ควรมีการตรวจเช็คคราบน้ำฝนหรือรวยรั่วซึมจากหลังคาหรือฝ้าเพดาน เพราะบางครั้งฝนตกในช่วงที่คุณไม่อยู่บ้าน หากรั่วซึมเพียงเล็กน้อย คุณจะไม่สามารถสังเกตเห็นได้จนกว่ารอยรั่วจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนบ้านบางหลังฝนตกทะลุฝ้าเพดานหรือฝ้าพังลงมาเลยก็มี ▪ ส่วนต่อเติมต่างๆ คนที่ต่อเติมบ้าน เช่น ห้องครัวหลังบ้าน หรือห้องพักผ่อนบริเวณด้านข้างบ้าน มักพบปัญหาบ่อยๆ ในหน้าฝนว่าเกิดการรั่วซึมของน้ำฝนจากจุดเชื่อมต่อระหว่างโครงสร้างหลังคาใหม่กับตัวบ้านเดิม บางครั้งอาจสังเกตได้จากคราบน้ำฝนที่ไหลลงมาตามผนังบ้านก็ได้ ② กรอบประตู/หน้าต่าง ▪ น้ำรั่วซึม เนื่องจากบ้านเราเป็นเมืองร้อนที่แดดจะแรงมากในช่วงกลางวัน และประตูหน้าต่างคือส่วนที่ต้องสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงต่อเนื่องกันหลายชั่วโมง จึงเป็นไปได้ที่ซิลิโคนหรือยางที่ยึดกรอบหน้าต่างจะเกิดการหลุดร่อนหรือสึกหรอ พอฝนตกหนักๆ ก็จะมีน้ำรั่วซึมเข้าภายในบ้านได้ ▪ บวม/แตกร้าว ฝนตกทุกวัน โอกาสที่ประตูบ้านอาจบวมก็มีได้บ้าง หากใช้วัสดุที่ไม่ค่อยมีคุณภาพเพียงพอ หรือกรอบประตูที่เคยโดนแดดแรงๆ ต่อเนื่องกันมาตลอดหน้าร้อน…