หากพูดถึงองค์ประกอบห้องต่างๆ ภายในบ้านแล้วล่ะก็ “ห้องครัว” นั้นถือได้ว่ามีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าห้องอื่นๆ เลย เพราะชีวิตคนเรานั้น “กองทัพต้องเดินด้วยท้อง” หากปล่อยให้ท้องหิวไส้กิ่วจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปทำสิ่งดีๆ ให้กับชีวิต จริงมั้ยคะ? หลายคนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่อาจนิยมครัวฝรั่งแบบเปิดโล่ง สำหรับบ้านบางหลังห้องครัวหันหน้าออกประตูบ้านเป็นการรับแขกด้วยซ้ำไป ซึ่งหากมองในเรื่องของดีไซน์แล้ว คงไม่ผิดอะไรตรงไหนแถมโก้หรูไปอีกแบบสำหรับคนที่ชอบสไตล์แบบนั้น แต่หากพูดกันตามหลัก “ฮวงจุ้ย” แล้วอาจไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่นัก หากต้องการวางตำแหน่งห้องครัวเพื่อให้เกิดศิริมงคลและความอยู่ดีกินดีแก่คนในครอบครัวแล้วล่ะก็ อย่าลืมหลัก 3 ข้อนี้เป็นอันขาดเลยนะคะ ① ตำแหน่งห้องครัวควรอยู่หลังบ้านและไม่ควรหันออกไปทางประตูบ้าน ตามความเชื่อจะมองว่าหากครัวอยู่ตำแหน่งอื่นที่ไม่ใช่หลังบ้านจะเป็นการขัดโชคลาภที่จะไหลเข้ามาในบ้านผ่านทางประตูเพราะมีครัวไปบังไว้นั่นเอง แต่หากมองตามหลักวิทยาศาสตร์หรือหลักการง่ายๆ ตามธรรมเนียมไทย ครัวอาจไม่ใช่สิ่งที่คนไทยนิยมนำมาโชว์ให้แขกผู้มาเยือนได้เห็นกันสักเท่าไหร่ ยิ่งเป็นแขกที่ไม่สนิทด้วยแล้ว เพราะครัวคือบ่อเกิดแห่งสารพัดกลิ่นอาหาร ถึงแม้ว่าคุณจะติดเครื่องกรองอากาศหรือดับกลิ่นช่วยแล้วก็ตาม อีกทั้งด้วยสภาพอากาศบ้านเราที่เป็นเมืองร้อน เวลาที่คุณแม่บ้านกำลังสาละวนอยู่กับการเตรียมอาหาร หน้าตาก็อาจจะยังไม่ได้แต่ง แถมมันเยิ้มไปด้วยคราบน้ำมันที่เพิ่งผัดผักรวมหรือทอดปลาเสร็จไปหมาดๆ แล้วบังเอิญมีแขกเดินเข้ามาในบ้านพร้อมคุณสามี คงพอนึกภาพกันออกใช่มั้ยคะว่าคุณแม่บ้านคงอยากจะแทรกแผ่นดินหนีกันเลยทีเดียว หากคุณซื้อบ้านที่มีครัวอยู่ในตำแหน่งที่กล่าวมา อาจนำม่านหรือมู่ลี่หรือฉากกั้นเก๋ๆ มาติดตั้งหรือวางไว้หน้าห้องครัวก็อาจจะพอช่วยให้ครัวมีความเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น ② ไม่ควรอยู่ติดห้องน้ำ ความเชื่อนี้อธิบายได้ชัดเจนตามหลักสุขอนามัย เพราะหากมีสมาชิกในบ้านเกิดมีอาการท้องเสียท้องร่วง หรือบังเอิญได้รับเชื้ออวิหาตกโรคและห้องครัวอยู่ใกล้กับห้องน้ำแล้วล่ะก็ อาจมีการกระจายของเชื้อโรคไปสู่อาหารและทำให้สมาชิกคนอื่นๆ ติดเชื้อโรคไปด้วยนั่นเอง ทางที่ดีเวลาเลือกซื้อบ้านควรเลือกแบบบ้านที่มีระยะห่างระหว่างครัวและห้องน้ำพอสมควรก็จะช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ ③ ไม่ควรวางตำแหน่งเตาไฟใกล้กับก๊อกน้ำ น้ำกับไฟ ใครๆ ก็ย่อมทราบกันดีอยู่แล้วว่าเข้ากันไม่ได้ หากเราวางตำแหน่งเตาไฟไว้ใกล้กับก๊อกน้ำ โดยเฉพาะครัวสมัยใหม่ที่อาจนิยมใช้เตาไฟฟ้าหรือเตาที่จุดด้วยระบบไฟฟ้าแล้วล่ะก็ โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุย่อมมีได้อย่างแน่นอนค่ะ…

สำหรับใครที่มีเนื้อที่หน้าบ้าน แต่ก็ไม่รู้จะทำอะไรดี นอกจากตัดหญ้าไปวันๆ ขอแนะนำเลยว่าการจัดสวนหน้าบ้านก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ดี เพราะสวนหน้าบ้านก็เหมือนหน้าตาของบ้าน ของตระกูล แต่การจัดสวนก็มีหลักฮวงจุ้ยเข้ามาสอดคล้องด้วย ดังนั้น มาดูกันดีกว่าว่าการจัดสวนตามแบบ “ฮวงจุ้ย” มีอะไรบ้าง นำต้นไม้ และดอกไม้มาเสริมสวนหน้าบ้าน ในส่วนของต้นไม้ ตามหลักฮวงจุ้ยนั้น เราไม่ควรปลูกต้นไม้ให้ชิดตัวบ้านมากจนเกินไป เพราะจะทำให้บังแสงอาทิตย์ที่ส่องมา และยังไปสกัดกั้นพลังชี่ที่จะเข้าสู่ตัวบ้านอีกด้วย ซึ่งนั่นก็จะทำให้ผู้อาศัยไม่มีพลัง และแรงจูงใจ โดยต้นไม้ที่ปลูกควรจะมีการเจริญเติบโตที่ดี เพราะในทางฮวงจุ้ยมีความเชื่อที่ว่า ถ้าต้นไม้เหี่ยวเฉา หรือแห้งตาย จะนำมาสู่โชคร้ายและปัญหาทางสุขภาพ ดังนั้นควรรีบเอาออกให้ไวที่สุด ในส่วนของดอกไม้ ตามหลักฮวงจุ้ยได้ถือว่าดอกไม้ทุกชนิดจะมีพลังงานทางด้านบวก ที่จะมาให้กับบ้าน แน่นอนว่าต้องมีดอกไม้เด็ด และวันนี้ก็มากับดอกไม้ 5 ชนิด ที่ถือว่าเป็นมงคลมาก ดังนี้ ดอกโบตั๋นดอกโบตั๋นถือเป็นดอกไม้มงคลสูงสุด เพราะได้เป็นตัวแทนแห่งความรักและโชคลาภ ถ้าดอกโบตั๋นบานเมื่อไร โชคดีก็จะเข้ามาในบ้านนั้น ดอกเบญจมาศดอกเบญจบาศถือเป็นดอกไม้แห่งความรัก และความสุข ดอกจำปีและกล้วยไม้โดยทั้งคู่แทนความอ่อนหวาน ความช่วยเหลือเกื้อกูล ดอกบัวดอกบัวถือเป็นดอกไม้แห่งความบริสุทธิ์ ความหลุดพ้น เลี้ยง “ปลา” ก็ช่วยได้ บ่อเลี้ยงปลาเชื่อว่าเป็นวัตถุมงคลที่ดีมากๆ ที่จะมาช่วยเพิ่มโชคลาภให้เรา ไปพร้อมๆ กับการสร้างความสวยสดชื่นให้สวน และทั้งหมดนั้นก็มาจากน้ำ ซึ่งน้ำก็มีส่วนเกี่ยวข้องในส่วนของความเจริญรุ่งเรือง และความโชคลาภ ส่วนปลา…

ห้องนอน ถือเป็นห้องที่ใช้ในการพักผ่อนหย่อนใจ ทำให้สภาพแวดล้อมของห้องนอนต้องสงบ ร่มรื่น สดชื่น น่าอยู่น่าอาศัย แต่ด้วยบางบ้านอาจจะมีพื้นที่จำกัด ทำให้ห้องนอนอาจจะไม่ตรงตามหลักความเชื่อมากนัก วันนี้เราจึงมีการจัดห้องนอนตามหลักฮวงจุ้ยมากฝากกัน  จะมีอะไรบ้าง ไปดูเลย 1. การจัดเตียงที่เป็นไปตามหลักฮวงจุ้ย หัวเตียงที่ดีควรมั่นคง แข็งแรง ควรทำจากไม้ หรืออาจจะใช้แบบนวม ตัวฟูกนอนควรเลือกใช้แบบที่ให้ความสะดวกสบายมากที่สุด นอนหลับง่ายที่สุด และควรหลีกเลี่ยงฟูกมือสอง เพราะพลังงานไม่แน่นอน ตัวเตียง ควรใช้เตียงที่มีความสูงในระดับที่พอดี พอที่จะให้มีพลังงานไหลใต้เตียงได้ ควรหลีกเลี่ยงเตียงทึบ ตำแหน่งเตียงควรจัดให้อยู่ห่างจากประตูมากที่สุด และไม่ควรวางอยู่ในแนวเดียวกับประตู เพราะจะทำให้พลังงานชี่ไหลมาที่เตียงได้โดยตรง ควรหลีกเลี่ยง และไม่ควรจัดให้เตียงอยู่ติด หรืออยู่ใกล้กับประตู เพราะจะทำให้เราตกใจง่ายขึ้น เวลาเราปิดประตู นอกเหนือจากจะต้องมีหัวเตียงแข็งแรงทนทานแล้ว ตำแหน่งการวางหัวเตียง ควรหันไปติดฝาผนัง เพราะถ้าเราตั้งลอยๆ เวลาที่เราหลับจะทำให้พลังงานอ่อนแอ ดังนั้นกำแพงที่แข็งแรงก็จะช่วยป้องกัน และเพิ่มพลังให้แก่เราได้ นอกจากเรายังควรจัดสมดุลข้างเตียงให้ดี โดยอาจวางโคมไฟให้อยู่บนโต๊ะ ทั้งสองมุมของเตียง ส่วนตัวโต๊ะที่วางก็ควรใช้โต๊ะที่กลม มน แทนโต๊ะเหลี่ยมจะดีกว่า หลีกเลี่ยงการวางโทรทัศน์ในห้องนอน เพราะเป็นสาเหตุที่ทำให้ในบ้านเกิดปัญหา “มือที่สาม” ขึ้น แต่ถ้าพื้นที่ไม่พอจริงๆ ก็ให้คลุมหลังจากดูให้เสร็จจะดีที่สุด 2. จัดห้องนอนให้ส่งเสริมพลังงานบวก ไม่ควรวางกระจกให้ตรงกับเตียงนอน…

ห้องนอนนั้นถือว่าเป็นห้องที่มีความสำคัญมากที่สุดของบ้าน เนื่องจากเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ใช้สำหรับการพักผ่อน และอยู่อาศัยเป็นหลัก และมีระยะเวลาการพักอาศัยที่นานกว่าพื้นที่ส่วนอื่นของบ้านใน 1 วัน หากห้องนอนมีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่ดี ก็ส่งผลต่อผู้พักอาศัยให้ได้รับความสุขและการพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม แต่ถ้าห้องนอนตั้งอยู่บนตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม ก็ส่งผลต่อการพักอาศัยไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพกายหรือสุขภาพจิต ตลอดไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัว ซึ่งตำแหน่งของห้องนอนที่ไม่เหมาะสมและส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้พักอาศัยตามหลักฮวงจุ้ยนั้น มีดังต่อไปนี้ 1. ห้องนอนไม่ควรอยู่ติดกับห้องครัว เหตุผลที่ห้องนอนไม่ควรอยู่ติดกับห้องครัวนั้น เนื่องจากอาจถูกกลิ่นควันจากห้องครัวรบกวนจนทำให้ผู้พักอาศัยไม่อาจนอนหลับพักผ่อนได้ดี และอาจเกิดอุบัติเหตุต่างๆ ขึ้นได้ เช่น อัคคีภัย แก๊สรั่วไหล และที่สำคัญผนังห้องนอนไม่ควรอยู่ด้านเดียวกับผนังห้องครัว โดยเฉพาะด้านที่วางเตาไฟ ตามความเชื่อที่ว่าจะส่งผลให้เจ้าของบ้านเป็นคนเจ้าอารมณ์และใจร้อนดั่งไฟ 2. ห้องนอนไม่ควรอยู่เหนือโรงรถ ตามความเชื่อที่ว่า ห้องนอนที่วางไว้เหนือโรงรถจะส่งผลให้ผู้นอนขาดความมั่นคงในชีวิต เพราะด้านล่างของห้องนอนเป็นที่โล่ง เป็นสภาพเคลื่อนไหว จึงเปรียบเสมือนคนนอนอยู่บนอากาศ ขาดพื้นฐานที่มั่นคง และเป็นที่เชื้อเชิญวิญญาณเร่ร่อนให้อยากเข้ามาพักอาศัยในบ้าน สำหรับเหตุผลในทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้อธิบายหลักการนี้ก็คือ การที่ห้องนอนอยู่เหนือโรงรถนั้น ผู้พักอาศัยในห้องมีโอกาสเสี่ยงที่จะสูดดมเอาควันพิษจากท่อไอเสียรถยนต์เข้ามาในร่างกาย ส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง 3. ห้องนอนไม่ควรอยู่ใต้บันได ตามความเชื่อที่ว่าความลาดเอียงของผนังหรือเพดานห้อง จะส่งผลให้พลังชี่ภายในห้องนอนเปลี่ยนแปลงไม่คงที่ ยิ่งมีความเอียงมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีผลกระทบมากขึ้นเท่านั้นส่วนเหตุผลอื่นที่ห้องนอนไม่ควรอยู่ใต้บันได ก็คือเสียงเดินขึ้น เดินลง บันได อาจก่อให้เกิดการรบกวนผู้นอนข้างล่างได้ ทำให้ผู้นอนในห้องหลับไม่สนิท ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลียได้ง่ายเพราะพักผ่อนไม่เต็มที่นั่นเอง รวมถึงฝุ่นละอองที่อยู่บนบันได อาจร่วงหล่นลงมายังห้องนอนได้ 4. ห้องนอนไม่ควรอยู่ติดกับห้องเก็บของ เนื่องจากห้องเก็บของเป็นห้องที่รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยตลอดเวลาได้ยาก ดังนั้นถ้าห้องนอนอยู่ติดกับห้องเก็บของก็จะส่งผลต่อสุขภาพของผู้นอนได้…

ตำแหน่งของห้องนอนและการจัดวางห้องนอน ย่อมมีความสำคัญไม่น้อยต่อผู้พักอาศัย เมื่อปลูกสร้างบ้านพักอาศัยแล้ว ก็ต้องอยู่อาศัยไปอีกนาน ถ้าอยู่แล้วมีความสุข ก็ส่งผลดีกับผู้พักอาศัยไปนานแสนนาน แต่ในทางตรงข้ามถ้าอยู่แล้วไม่มีความสุข ก็ต้องอยู่กับมันไปนานเช่นกัน ดังนั้นห้องนอนที่ดี ก็อาจส่งเสริมชีวิตของผู้พักอาศัยให้มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต แต่ถ้าห้องนอนมีการจัดวางโดยไม่ถูกต้องตามหลัก ฮวงจุ้ย ก็อาจส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้พักอาศัยได้เช่นเดียวกัน เพื่อความสบายใจแก่ผู้พักอาศัย จึงควรพิจารณาการจัดวางห้องนอนตามหลักฮวงจุ้ยด้วย ซึ่งมีหลักในการวางตำแหน่งของห้องนอนและการจัดห้องนอน ดังนี้ 1. ห้องนอนควรอยู่ในมุมที่สงบ ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว ห้องนอนที่อยู่ในมุมที่สงบที่สุดนั้นควรจะอยู่ในพื้นที่โซนหลังบ้าน และควรมีระยะห่างจากห้องนั่งเล่นและทางเข้าพอสมควรหรือควรอยู่ชั้นบนห่างจากทางเข้าและถนน ซึ่งการที่ห้องนอนอยู่ในที่ลับตาคนนั้น เชื่อว่าจะส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยสามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้มากที่สุด 2. ควรวางตำแหน่งห้องนอนเจ้าของบ้านไว้ที่มุมบ้าน เจ้าบ้านถือว่าเป็นผู้อยู่อาศัยที่มีความสำคัญกับบ้านและสมาชิกในบ้าน ดังนั้นการวางตำแหน่งห้องนอนของเจ้าบ้านจึงควรวางไว้ในตำแหน่งของมุมบ้าน และไม่ควรเลือกตำแหน่งตรงกลางของบ้านด้านใดด้านหนึ่ง เพราะเชื่อว่าตำแหน่งที่อยู่ตรงกลางจะถูกบีบให้มีช่องแสงเพียงด้านเดียว ส่งผลให้เกิดสภาพที่ไม่สมดุลภายในห้องนอน 3. ห้องนอนใหญ่ของบ้าน ไม่ควรอยู่ด้านทิศตะวันตก ตามความเชื่อแล้วถือว่าทิศตะวันตกเป็นทิศของเสือขาว ห้องนอนใหญ่ตามปกติแล้วจะเป็นห้องสำหรับเจ้าของบ้าน ดังนั้นจึงไม่ควรอยู่ทางทิศนี้ เพราะตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับห้องนอนใหญ่คือทิศตะวันออก ซึ่งเป็นทิศมังกรเขียว เจ้าบ้านจึงควรมีห้องนอนอยู่ทิศที่มีความสำคัญที่สุด ซึ่งข้อเสียของทิศตะวันตก คือ เป็นทิศที่ต้องรับแสงแดดในตอนบ่ายถึงเย็น ผนังห้องนอนจะสะสมความร้อนเอาไว้และจะคายความร้อนออกมาในช่วงกลางคืน ส่งผลกระทบกับผู้นอนและเครื่องปรับอากาศที่ต้องทำงานหนักกว่าปกติ 4. ห้องนอนไม่ควรอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้หรือทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากตามหลักฮวงจุ้ยของญี่ปุ่นและไต้หวัน ถือว่าทิศดังกล่าวเป็นทิศประตูผีซึ่งไม่เป็นมงคลสำหรับผู้พักอาศัย 5. ไม่ควรมีจำนวนห้องนอนมากกว่าจำนวนของผู้อยู่อาศัย ตามเหตุผลความเชื่อที่ว่าการปล่อยห้องนอนทิ้งไว้โดยที่ไม่มีใครเข้าไปนอน นานวันเข้าจะมีวิญญาณเร่ร่อนเข้าไปจับจองเป็นเจ้าของห้อง โดยเฉพาะห้องที่มีการวางเตียงนอนหรือปูที่นอนไว้แล้ว…

ตำแหน่งของประตูห้องนอนย่อมมีความสัมพันธ์กับผู้พักอาศัยในห้องนอนอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ถ้าวางตำแหน่งของประตูในตำแหน่งที่ดีและถูกต้อง ผู้พักอาศัยในห้องก็พลอยได้รับผลดีหรือพลังที่ดีด้วย แต่ถ้าตำแหน่งของประตูห้องนอนเป็นตำแหน่งที่ไม่ดี ย่อมส่งผลต่อผู้พักอาศัยให้ได้รับสิ่งที่ไม่ดีด้วยเช่นกัน ซึ่งตำแหน่องของประตูห้องนอนที่ไม่ดีตามหลักฮวงจุ้ยนั้น มีลักษณะดังต่อไปนี้ 1. ประตูห้องนอนไม่ควรอยู่ตรงกับประตูทางเข้า เนื่องจากประตูทางเข้าหลักของบ้านเป็นบริเวณที่มีผู้คนเข้า ออก เมื่อประตูทั้งสองตรงกัน ผู้ ที่อยู่อาศัยในห้องนอน ก็จะถูกรบกวนจากเสียงสนทนา เสียงฝีเท้า หรือเสียงรบกวนอื่นๆ ทำให้ไม่สามารถนอนหลับพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ และอาจเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ส่งผลกระทบให้เจ้าของห้องนอนรู้สึกอ่อนเพลียได้ 2. ประตูห้องนอนไม่ควรอยู่ตรงกับประตูห้องครัว เนื่องจากห้องครัวถือเป็นธาตุไฟ เป็นพลังหยางที่มีความร้อนแรง จึงไม่เหมาะสมที่จะอยู่ อาศัยใกล้ห้องครัว ซึ่งตามปกติแล้วห้องครัวถือเป็นห้องที่ก่อให้เกิดมลภาวะหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกลิ่น ควัน ความร้อน ตลอดจนอาจมีอันตรายจากอัคคีภัยได้ ดังนั้นการที่ตำแหน่งประตูห้องนอนอยู่ในแนวเดียวกับประตูห้องครัว จึงรับเอามลภาวะต่างๆ จากห้องครัวมาเต็มที่ 3.ประตูห้องนอนไม่ควรอยู่ตรงกับบันไดที่ทอดลงชั้นล่างของบ้าน การไหลเวียนของพลังซี่บริเวณหน้าห้องที่ก่อความสมดุลกับบันไดที่ทอดลง จะทำให้พลัง ชี่ไหลอย่างรุนแรง และประตูที่อยู่ใกล้บันไดมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการพลัดตกบันไดมากขึ้น ดังนั้นควรเว้นระยะห่างระหว่างประตูห้องนอนกับบันไดให้มีระยะห่างมากขึ้น 4. ประตูห้องนอนไม่ควรอยู่ตรงกับประตูห้องน้ำ อากาศที่สกปรกที่ไหลเวียนเข้ามาในห้องนอน อาจส่งผลต่อสุขภาพของผู้พักอาศัย ทำลาย ความสงบสุขและประสิทธิภาพในการทำงานของผู้พักอาศัยอาจลดลง แต่ห้องนอนที่มีประตูตรงกับห้องน้ำ ก็อาจได้รับผลกระทบน้อยกว่าห้องนอนที่มีห้องน้ำอยู่ในตัว 5. ประตูห้องนอนไม่ควรอยู่ตรงกับประตูห้องเก็บของ ตามปกติแล้วห้องเก็บของเป็นห้องที่มีความสกปรกอยู่ในตัว เต็มไปด้วยอากาศที่ไม่สะอาด ตลอดจนเชื้อราต่างๆ ที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ…

การจัดสวนสไตล์วินเทจ เป็นการจัดสวนสุดคลาสสิกแนวย้อนยุค ซึ่งคำว่า                 “ Vintage” ตามรากศัพท์แล้ว หมายถึง คือการหมักบ่มไวน์ หรือ antique ที่แปลว่าเก่านั่นเอง โดยการจัดสวนไตล์วินเทจ มักจะเน้นความหวาน อบอุ่น และโรแมนติก สำหรับใครที่ชื่นชอบและหลงใหลในมนต์เสน่ห์ของความเป็นวินเทจแล้วล่ะก็ การจัดสวนสไตล์นี้สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณได้เป็นอย่างดีแน่นอนค่ะ เพราะการจัดสวนบริเวณรอบบ้านสามารถบ่งบอกความเป็นตัวตนของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวล่ะค่ะ   มุมนั่งเล่นสไตล์วินเทจสุดคลาสสิก สร้างความโดดเด่นให้สวนสไตล์วินเทจของคุณด้วยโต๊ะ และเก้าอี้เหล็กดัดสีขาวที่มีลวดลายโค้งมนบนพื้นหญ้าสีเขียวขจี ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่น ผ่อนคลาย โดยเน้นปลูกไม้ประดับสีเขียว เช่น เฟิร์น เดหลี จั๋งแคระ เป็นต้น และอาจปลูกไม้ดอกเพียงเล็กน้อยเพื่อเพิ่มสีสันให้มุมนั่งเล่นสุดโปรดของคุณดูสดใสมีชีวิตชีวามากขึ้น เพียงเท่านี้คุณก็จะได้มุมนั่งเล่นที่แสนอบอุ่นและผ่อนคลายแล้วล่ะค่ะ   สวนดอกไม้สุดโรแมนติก เนรมิตความโรแมนติกให้สวนสไตล์วินเทจของคุณ โดยการจัดสวนดอกไม้แสนสวย              และนำอุปกรณ์อื่น ๆ เข้ามาเพิ่มความเก๋ให้สวนของคุณ เช่น ล้อเกวียน จักรยานเหล็กดัด             รากไม้ เป็นต้น โดยเลือกดอกไม้ตามที่คุณชอบและจัดแต่งตามสไตล์ของคุณ ความงดงาม และสีสันสดใสของดอกไม้จะช่วยทำให้สวนของคุณดูอบอุ่น และโรแมนติกสุด ๆ เลยทีเดียว   จัดมุมน่ารัก ๆ ในสวนสไตล์วิเทจด้วยของตกแต่งสุดคลาสสิก เพิ่มความน่ารัก อ่อนหวานให้กับสวนสไตล์วินเทจของคุณด้วยของตกแต่งสุดคลาสสิก เช่น รูปปั้นคิวปิด…

        สีเหลืองเป็นอีกหนึ่งโทนสีที่ได้รับความนิยมในการตกแต่งบ้านในปัจจุบัน        การใช้สีเหลืองในการตกแต่งบ้านนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้สีเหลืองเพียงสีเดียวมาตกแต่งพื้นที่ภายในบ้านของคุณทั้งหมด เพียงแค่เน้นโทนสีเหลืองเป็นหลักในแต่ละพื้นที่ให้สีดูโดดเด่นก็สามารถดูดีตามคอนเซ็ปต์ได้เช่นกัน ถ้าคุณชอบสีเหลือง และอยากตกแต่งบ้านด้วยโทนสีเหลือง แต่มีความกังวลว่าบ้านจะดูสว่างมากเกินไป วันนี้เรามีเคล็ดลับที่สามารถช่วยให้คุณเลือกใช้สีเหลืองในการตกแต่งบ้านได้ง่ายขึ้นมานำเสนอค่ะ สีเหลืองเป็นสีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น สดใส และสุกสว่าง การใช้สีเหลืองในการตกแต่งบ้านจะช่วยให้บ้านของคุณดูสว่างและมีสีสัน นอกจากนี้โทนสีเหลืองยังให้ความรู้สึกอุดมสมบูรณ์ มีพลัง โดยโทนสีเหลืองที่นิยมนำมาตกแต่งบ้านคือ สีเหลืองทอง สีเหลืองพาสเทล สีเบจ เป็นต้น   เฟอร์นิเจอร์สีเหลืองช่วยให้บ้านของคุณดูสว่างมากขึ้น หากพื้นที่ภายในบ้านของคุณดูมืดและมีแสงสว่างไม่เพียงพอ สามารถเพิ่มความสว่างได้โดยการใช้เฟอร์นิเจอร์สีเหลืองเข้ามาตกแต่ง โดยอาจเลือกโคมไฟ ชั้นวางของ โต๊ะ โซฟา หรือของตกแต่งอื่น ๆ ในโทนสีเหลืองอ่อน แต่ไม่ควรใช้สีเหลืองเข้ม หรือสีเหลืองในโทนสว่างสดใสมาตกแต่งภายในห้องที่มืด เพราะจะเป็นการสร้างบรรยากาศดูอึดอัดและไม่มีความเป็นธรรมชาติ   ตกแต่งบ้านของคุณให้ดูอบอุ่นด้วยโทนสีเหลือง ถ้าหากคุณต้องการให้บ้านของคุณดูอบอุ่นแล้วล่ะก็ การใช้สีเหลืองในการตกแต่งบ้านก็น่าสนใจไม่น้อย โดยเลือกใช้สีเหลืองโทนสีเบจ หรือสีเหลืองทอง ในการตกแต่งเพิ่มความอบอุ่นให้บ้านของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้องนั่งเล่น หรือห้องรับประทานอาหารที่เป็นพื้นที่แห่งความสุขที่คุณใช้เวลาอยู่กับคนในครอบครัว ซึ่งการทาสีผนังห้องรับประทานอาหารด้วยสีเหลือง นอกจากจะช่วยทำให้บ้านมีบรรยากาศอบอุ่นมากขึ้นแล้ว ยังช่วยให้เจริญอาหารมากขึ้นอีกด้วย   เพิ่มลูกเล่นด้วยการใช้สีอื่นเข้ามาตกแต่งคู่กับสีเหลือง คุณสามารถนำสีอื่น ๆ เข้ามาตกแต่งบ้านของคุณให้มีสีสันและลูกเล่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งก่อนที่จะนำสีอื่นเข้ามาตกแต่ง ควรลองจับคู่สีกันก่อนว่าเฉดสีเข้ากันได้ดีหรือไม่ และสีที่นำมาใช้ไม่ควรตัดกับสีเหลืองมากเกินไปจนทำให้ดูขัดตา โดยสีที่มักนำมาตกแต่งคู่กับสีเหลือง…

คงจะดีไม่น้อยถ้าสวนที่บ้านของคุณสามารถกินได้ด้วย วันไหนเข้าครัวแล้วนึกอยากได้ผักสด ก็สามารถตรงดิ่งไปยังสวนของคุณ เก็บผักมาทำกับข้าวได้อย่างสบายใจ แต่หลาย ๆ คนอาจจะยังนึกภาพสวนสวยๆ ที่มีพืชผักสวนครัวไม่ออก เพราะส่วนมากแล้วผักสวนครัวจะไม่มีดอก ใบ หรือลำต้นที่มีสีสันสดใสสวยงามเหมือนไม้ดอกไม้ประดับ ทำให้กังวลว่าถ้ามีสวนผักอยู่หน้าบ้านจะดูดีหรือ จะทำให้ดูรกไปหรือเปล่า ดังนั้นวันนี้เรามีไอเดียจัดสวยกินได้แบบง่าย ๆ แต่ดูดีมีสไตล์มานำเสนอ เพียงคุณนำไอเดียเหล่านี้ไปจัดสวนที่บ้านของคุณ การมีสวนที่ทั้งสวย และกินได้ด้วยก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป การจัดสวนด้วยการปลูกพืชผักสวนครัว อันดับแรกที่ต้องคำนึงถึงคือ ขนาดพื้นที่ในสวนของคุณ ถ้าบ้านของคุณมีพื้นที่มากก็อาจทำแปลงผักสำหรับปลูก แต่หากมีพื้นที่จำกัดก็สามารถปลูกในกระบะ หรือกระถางได้ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของผักชนิดนั้น ๆ และพื้นที่ของสวน   จัดสวนสวยกินได้โดยการทำแปลงผัก การทำแปลงผักไม่จำเป็นที่จะต้องทำเป็นรูปสี่เหลี่ยมเพียงเท่านั้น คุณสามารถประยุกต์รูปทรงได้ตามความต้องการของคุณ โดยคำนึงถึงความเหมาะสม และความเป็นระเบียบเป็นหลัก เช่น อาจทำแปลงตามแนวถนนทางเดินเข้าบ้าน  บริเวณใกล้ ๆ กับขอบรั้วโดยทำเป็นแนวไปตามความยาวของรั้ว หรือทำเป็นรูปวงกลม หกเหลี่ยม รูปดาว เป็นต้น โดยผักที่เหมาะกับการทำแปลงผักคือ ผักกาดหอม โดยอาจจะเลือกปลูกผักกาดหอมคนละชนิดสลับกันในแปลงเดียว เพื่อเพิ่มสีสันและความสวยงามให้กับสวนของคุณ นอกจากนี้คุณยังสามารถเพิ่มความเก๋ โดยการนำอิฐดินเผามาวางรอบ ๆ แปลงจะช่วยทำให้แปลงผักของคุณดูสวยคลาสสิกขึ้นมาไม่น้อย   ปลูกผักในกระถาง หรือกระบะดีไซน์เก๋ ๆ…