การปลูกต้นไม้ในบ้านเป็นสิ่งที่ดี ช่วยให้บ้านและสิ่งแวดล้อมรอบตัวบ้านน่าอยู่ อากาศเย็นสบาย ชุ่มชื่นไปด้วยไอเย็นจากต้นไม้ แต่สำหรับคนไทยแล้วเรามีความเชื่อว่าต้นไม้บางชนิดก็ไม่ควรนำมาปลูกในบ้านเช่นกัน เรามาดูกันสิว่ามีต้นอะไรบ้างที่ไม่ควรปลูกในบ้าน 1.ต้นรัก การปลูกต้นรักในบ้านนั้น คนในบ้านจะมากรัก หลายใจ แต่ในความเป็นจริงแล้วต้นรักนั้นมียางที่เป็นอันตราย ถ้าเข้าตาจะทำให้ตาบอดได้ 2.ต้นลั่นทม ถ้าปลูกต้นลั่นทมในบ้าน คนในบ้านจะทุกข์ระทม มีเรื่องอยู่ตลอดอยู่ไม่เป็นสุข ความจริงแล้วต้นลั่นทมมียางทั่วทั้งต้น ยางของต้นลั่นทมเป็นอันตรายต่อผิวหนังของเรา 3.ต้นงิ้ว เชื่อว่าปลูกต้นงิ้วแล้ว คนในบ้านจะมีชู้ ทำแต่เรื่องไม่ดีจนต้องตกนรก แต่ความจริงต้นงิ้วเป็นต้นไม้ที่มีหนามแหลม ถ้าปลูกในบ้านแล้ว คนในบ้านอาจได้รับอันตรายจากการถูกหนามแหลมทิ่มได้ 4.ต้นระกำ ปลูกแล้วคนในบ้านจะเจ็บช้ำระกำใจ มีเรื่องเข้ามาไม่หยุด ความจริงแล้วต้นระกำมีหนามแหลมรอบต้น เป็นอันตรายเมื่อเดินผ่าน ทำให้บาดเจ็บได้ 5.ต้นชวนชม เชื่อว่าถ้าปลุกชวนชมในบ้าน ถ้ามีลูกสาวจะมีปัญหาชู้สาว มีผู้ชายมากหน้าหลายตาเข้าไปมาหาสู้ ความจริงแล้วต้นชวนชมนั้นมียางเช่นกัน ซึ่งยางของชวนชมนั้นเป็นอันตรายต่อผิวหนังเช่นกัน 6.หว่านมหาเสน่ห์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “หว่านดอกทอง” เชื่อว่าถ้าปลูกในบ้านแล้ว คนในบ้านจะมีปัญหาชู้สาว จะมีมากผัวหลายเมีย จึงไม่นิยมนำมาปลูกในบ้าน 7.ต้นสน เชื่อว่าถ้าปลูกในบ้านแล้ว คนในบ้านจะขัดสนทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง หรือของกินของใช้ จึงไม่นิยมนำมาปลูกในบ้าน ความจริงแล้วต้นสนเป็นไม้ใหญ่ เมื่อเกิดลมพายุฝนขึ้น ต้นสนอาจจะล้มมาทับบ้านเรือนจนเสียหายได้ ต้นไม้ข้างต้นนอกจากความเชื่อแล้ว ยังมีเหตุผลสนับสนุนในความเป็นจริงด้วย…

บ้านตามโครงการจัดสรรส่วนมาก มักไม่มีห้องครัวที่พร้อมสำหรับทำครัวจริง แต่จะเป็นมุมเล็กที่ไว้จัดเตรียมอาหารได้ แต่สำหรับครอบครัวที่ต้องการทำอาหารแบบไทยมารับประทานกันนั้น ต้องทำการต่อเติมห้องครัวกันเอง วันนี้เราได้นำแบบการต่อเติมห้องครัวจากพื้นที่หลังบ้านมาให้ชมกัน                 จากพื้นที่หลังบ้านที่มีอยู่ ต้องการต่อเติมให้เป็นห้องครัว ติดต่อช่างมาทำการประเมินราคาเป็นที่พอใจกันแล้ว ช่างมาทำงาน เริ่มจาการลงเสาเข็มกันก่อนเพื่อที่ห้องครัวของบ้านจะได้มีความแข็งแรง เมื่อตอกเสาเข็มแล้วช่างได้แจ้งว่าต้องพักไว้สักระยะหนึ่งประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อที่ดินจะได้เกาะกับเสาเข็มจนแน่น หลังจากนั้นทำการก่อผนังด้วยอิฐมวลเบาทั้งสามด้าน ต้องการห้องครัวแบบปิด เพื่อความปลอดภัยเสียมากกว่า เมื่อก่อผนังครัวเสร็จก็ปูกระเบื้อง เจ้าของบ้านเลือกกระเบื้องสีขาวสำหรับผนังครัวของบ้าน เพื่อที่จะทำให้ห้องครัวดูกว้างและสว่างขึ้น นอกจากสีของกระเบื้องที่ทำให้ห้องดูสว่างแล้ว ยังมีการติดหน้าต่างเล็กๆด้านบนเป็นตัวช่วยอีกตัวหนึ่งด้วยนะ เพิ่มสีสันให้ห้องครัวด้วยการติดกระเบื้องสีเขียวคาดกลางไว้ดูสวยงาม เคาร์เตอร์ด้านล่างเป็นแบบบิวอินด้วยปูน เพื่อความแข็งแรงทนทาน ปูด้านบนด้วยแกรนิตโต้สีดำ ตัดกับบานประตูหน้าสีขาว ติดตั้งอ่างล้างจาน ตู้ติดผนัง และเครื่องดูดควันสำหรับดูดควันไม่ให้เข้ามาในตัวบ้าน เวลาที่ทำอาหาร                 นอกจากจะมีการต่อเติมครัวแล้ว ยังมีแบบการต่อหลังคาหน้าบ้านให้ดูด้วย เป็นงานต่อเนื่องของช่างที่ทำครัว เนื่องจากช่างที่ทำชุดแรกได้ทิ้งงานไป                 สำหรับใครที่ต้องการต่อเติมห้องครัวและลานหน้าบ้านลองดูกันนะการต่อเติมแบบนี้ใช้พื้นได้อย่างคุ้มค่า ขายบ้านศรีราชา

ช่วงนี้บ้าน ECO กำลังเป็นที่นิยมกันเป็นอย่างมาก หลายคนมีคำถามว่าบ้าน ECO คืออะไร บ้าน ECO คือบ้านประหยัดพลังงานหรือบ้านที่ได้รับการออกแบบให้เข้ากับธรรมชาติ ไม่สร้างมลพิษหรือก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม ลักษณะของบ้าน ECO นั้นแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ 1.บ้านขนาดเล็ก 2.บ้านประหยัดพลังงาน ซึ่งบ้านทั้งแบจัดเป็นบ้าน ECO เหมือนกัน มีการใช้วัสดุและอุปกรณ์เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงานให้ได้มากที่สุด                 1.ลดการใช้พลังงาน บ้านเราทุกวันนี้มีอากาศที่ร้อนมาก ในการสร้างบ้านแบบ ECO เราจะเน้นการใช้วัสดุที่ลดความร้อนไม่ให้เข้ามาในตัวบ้าน ด้วยการติดฉนวนกันความร้อนบนหลังคา ใช้อิฐแดงแทนอิฐบล็อก เพราะอิฐแดงระบายความร้อนได้ดีกว่า หรือจะเลือกทำเป็นบ้านไม้แทนก็ได้ เมื่อภายในบ้านเราไม่ร้อนแล้ว เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดเครื่องปรับอากาศเพื่อสร้างความเย็น เป็นการประหยัดพลังงานและลดการสร้างมลพิษจากการเปิดเครื่องปรับอากาศ                 2.วัสดุที่ไม่เป็นอันตราย วัสดุในการสร้างบ้าน ECO ต้องเป็นวัสดุที่ผลิตจากธรรมชาติ หรือเป็นวัสดุสังเคราะห์ที่ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม ไม่สร้างมลภาวะต่างๆออกสู่อากาศ น้ำหรือดินตัวอย่างเช่น สีทาบ้านก็ควรเป็นสีที่ไม่มีสารปรอท หรือสารที่ก่อให้เกิดอันตรายเป็นต้น วัสดุที่ใช้ในการสร้างบ้านในปัจจุบันนี้ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องมุงหลังคาที่ไม่มีส่วนประกอบของใยหิน ปูนแบพนังสำเร็จรูปที่เพียงผสมน้ำก็สามารถใช้ได้ ไม่ต้องทำการผสมเองให้สิ้นเปลืองและเหลือทิ้ง ใช้เท่าใดก็ผสมเท่านั้น สิ่งต่างๆเหล่านี้ ทำให้เราประหยัดทรัพยากรในการนำมาสร้างบ้าน หรือแม้แต่ใครที่อยากได้บ้านไม้ ก็ไม่จำเป็นต้องไปตัดไม้ทำลายป่า…

หลังจากที่เรากลับมาจากเรียนต่อที่ต่างประเทศ ทางบ้านมีปัญหาเกิดขึ้นเราจำเป็นต้องสร้างบ้านให้คุณแม่ใหม่ แต่เราเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศได้ไม่นาน เริ่มงานได้แค่ 6 เดือนเท่านั้น แต่ทำอย่างไรได้ครอบครัวต้องมีที่อยู่ เราเลยไปปรึกษากับบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างซึ่งเป็นคนรู้จักกัน ว่าเราจะสร้างบ้านเราต้องทำการกู้อย่างไร เค้าก็ให้คำปรึกษาและแนะนำให้กู้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ วันนี้เรามีเทคนิคและขั้นตอนในการเดินเรื่องกู้ซื้อบ้านให้ผ่านมาฝากกัน                 1.แบบบ้าน แบบบ้านที่เราเลือกต้องมีราคาไม่สูงเกินเมื่อเทียบกับรายรับของเรา เราสามารถคำนวณได้ว่าเราต้องผ่อนเดือนละเท่าไหร่ จากเวปไซด์ทั่วไป ถ้าเราเลือกบ้านที่ราคาสูงเกินไปก็จะเป็นภาระ และเราก็จะยื่นกู้ผ่านยากด้วย                 2.หนี้เป็นศูนย์ ขอบอกก่อนว่าเรากู้ร่วมกับแม่เพราะว่าที่ดินเป็นชื่อแม่ จะแบ่งแยกก็ช้าทางธนาคารก็เลยแนะนำให้กู้ร่วม แต่แม่มีหนี้ผ่อนรถอยู่เดือนละหมื่นกว่าบาท ทางธนาคารให้ไปปิดหนี้รถให้หมดก่อน ส่วนเรานั้นไม่มีหนี้เนื่องจากเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ เมื่อไปปิดหนี้รถแล้วก็สบายสำหรับคนที่มีบัตรเครดิตนั้นควรปิดบัตรหรือหยุดการใช้บัตรอย่างน้อย 6 เดือนก่อนที่จะทำยื่นกู้นะ                 3.เงินเก็บต้องมี สำหรับคนที่ไม่มีรายได้ประจำอย่างแม่ของดิฉันนั้น การที่จะกู้ร่วมได้นั้นต้องมีเงินเก็บในบัญชีด้วยเพื่อเป็นหลักประกัน ถึงแม้ว่าภาระการผ่อนจะตกอยู่ที่ดิฉันเพียงคนเดียวก็ตาม แต่ทางธนาคารแจ้งว่าธนาคารไม่ได้รับรู้เรื่องนี้ ทางธนาคารเข้าใจว่าต้องช่วยกันผ่อนเท่านั้น โชคดีที่แม่มีเงินเก็บในบัญชีเป็นหลักแสน หลักจากที่ปิดหนี้รถไปแล้ว ส่วนของตัวดิฉันเองแล้วมีรายได้และไม่มีหนี้ก็เลยไม่มีปัญหาอะไร                 4.เอกสารเพื่อเตรียมพร้อม ครั้งแรกที่ยื่นเอกสารกู้สร้างบ้าน เราโทรไปติดต่อทางธนาคารก่อนว่าเราจะกู้ซื้อบ้านต้องเตรียมเอกสารอะไรไปบ้าง ทางธนาคารก็ใจดีแจ้งมาว่าให้เราเตรียมอะไรบ้าง แต่เรายังขาดเอกสารอีกอย่างคือ แปลนบ้าน ทีนี้ก็ต้องวิ่งไปหาผู้รับเหมาสิค่ะ ทางผู้รับเหมาเค้าไม่ได้รับเขียนแปลนบ้าน แต่ก็ยังใจดีแนะนำคนเขียนแบบให้ คุยกันบอกความต้องการว่าอยากได้บ้านแบบไหน บ้านเราออกแบบง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก นัด 3 วันเสร็จ มารับแบบแปลนพร้อมจ่ายเงินค่าเขียน…

บ้านเป็นสิ่งที่ทุกครอบครัวใฝ่ฝันที่จะได้ครอบครองเป็นเจ้าของกันทั้งนั้น สำหรับคนที่ต้องการมีบ้านเป็นของตนเองแล้ว ทางเลือกหนึ่งก็คือการกู้ซื้อบ้าน การกู้ซื้อบ้านเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เราสามารถเป็นเจ้าของบ้านได้ ซึ่งในปัจจุบันนี้จะมีธนาคารหรือสถาบันการเงินอยู่หลายแห่งที่ปล่อยวงเงินสินเชื่อทำเพื่อการซื้อบ้านและที่อยู่อาศัย แต่ก่อนที่เราจะทำการกู้ซื้อบ้านนั้นเราควรที่จะเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ก่อนที่จะเข้าไปติดต่อกับทางธนาคาร เพื่อที่วงเงินสินเชื่อที่เราต้องการกู้นั้น จะได้รับการอนุมัติอย่างรวดเร็วไม่ติดขัด   สำหรับพนักงานประจำ 1.ประวัติการทำงานสลิปเงินเดือน หนังสือรับรองรายได้เงินเดือน เอกสารการรับรายได้เงินเดือน สำหรับคนที่ทำงานประจำแล้วต้องการยื่นกู้กับทางธนาคารต้องทำงานกับทางบริษัทมาอย่างน้อย 6 เดือน  – 1 ปี เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงเกี่ยวกับการทำงานของเรา แสดงถึงความมั่นคงของสถานะทางการเงิน 2.เครดิตต้องดี หนี้ต้องไม่มีการกู้เงินซื้อบ้านจะมีการเช็คเครดิตบูโร เพื่อดูประวัติทางด้านการเงินของคุณด้วย สำหรับคนที่ประวัติทางด้านการเงินไม่ดี มียอดค้างชำระหรือติดแบล็คลิสต์แล้วล่ะก็ รับรองได้ว่าคุณมีโอกาสที่จะกู้ผ่านนั้นน้อยมาก ดังนั้นก่อนที่คุณจะทำเรื่องกู้นั้น คุณต้องเคลียร์หนี้สินให้หมดเสียก่อนอย่างน้อย 6 เดือน แต่สำหรับคนที่ไม่สามารถเคลียร์ได้หมด คุณต้องทำให้หนี้เหลือน้อยที่สุดประมาณ 10%ของรายรับหรือไม่มีเลย 3.เงินสำรองต้องพร้อม ก่อนที่เราจะทำการซื้อบ้านเราต้องมีเก็บสำรองไว้ก้อนหนึ่งก้อน เงินก้อนนี้จะเท่ากับจำนวนเงินดาวน์ของบ้านที่เราต้องจ่ายรวมกับค่าผ่อนบ้านที่เราต้องผ่อนอย่างน้อย 6 เดือน โดยปกติแล้วตามโครงการบ้านจัดสรรจะมีการดาวน์ประมาณ 5-20% ของราคาบ้านอยู่แล้ว ยิ่งเราจ่ายเงินดาวน์มากเท่าไหร่ เราก็จะเสียดอกเบี้ยให้แก่ธนาคารน้อยเท่านั้น 4.เลือกธนาคาร ในการยื่นกู้เราควรศึกษาเกี่ยวกับกู้ซื้อบ้านของหลายๆธนาคาร เพราะแต่ละธนาคารจะมีอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน เวลายื่นก็แนะนำให้ยื่นกู้กับธนาคารหลายๆแห่ง เพราะว่าธนาคารแต่ละแห่งนั้นมีหลักเกณฑ์การตัดสินอนุมัติวงเงินสินเชื่อที่ต่างกัน คุณกู้ธนาคารแห่งแรกไม่ผ่าน แต่ธนาคารแห่งที่สองเรื่องกู้ของคุณอาจจะผ่านก็ได้ 5.จัดเตรียมเอกสาร การเข้าไปยื่นเรื่องกับทางธนาคารเราควรเตรียมเอกสารให้ครบตามที่ธนาคารได้กำหนดไว้ จะได้ไม่เสียเวลาเดินทางหลายรอบเนื่องจากเอกสารไม่ครบ…

การดำรงชีวิตในยุคปัจจุบันของคน มักจะใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ เมื่อต้องทำงานอยู่ในเมืองแล้ว ที่อยู่อาศัยก็ต้องอยู่ในเมืองตามมาเช่นกัน เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางไปทำงาน แต่ด้วยราคาของบ้านและที่พักอาศัยในเมืองใหญ่นั้นมีราคาที่สูง การเลือกซื้อก็ต้องประเมินจากรายรับที่มี บางครั้งได้บ้านหลังเล็กๆหรือทาวเฮาส์ เมื่อได้บ้านมาแล้วใครก็อยากจะมีสวนย่อมเล็กๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ไว้พักผ่อนหย่อนใจหรือเติมพลังงานในยามท้อแท้ ใครที่ยังไม่มีไอเดียการทำสวนหย่อมล่ะก็ มาทางนี้กันได้เลย วันนี้เรามีไอเดียการทำสวนหย่อมสำหรับบ้านที่มีพื้นที่ไม่มาก                 แบบที่ 1 สวนบนผนัง สวนแนวบนผนังเหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่เล็ก แค่พอตั้งม้านั่งยาวๆสักตัวหรือโต๊ะเก้าอี้เล็กๆสักชุด แต่ต้องการมีพื้นที่สีเขียวเพื่อสร้างบรรยากาศที่ร่มรื่น การจัดแต่งให้ใช้พื้นผนังรอบบริเวณให้เป็นประโยชน์ การจัดทำได้ด้วยการหาโครงไม้มายึดติดกับกำแพง ทำการปลูกต้นไม้หรือวางกระถางต้นไม้ไว้บนโครงไม้ การเลือกต้นไม้ก็ควรเลือกให้มีความหลากหลายเข้าไว้ เวลาที่จัดออกมาจะได้มีมิติไม่เรียบจนกินไป หรืออาจจะเพิ่มความชุ่มชื่นด้วยการติดน้ำตกบนผนังด้วยก็ได้                 แบบที่ 2 สวนลอยฟ้า สวนลอยฟ้าเป็นรูปแบบสวนสำหรับคนที่ไม่ต้องการปลูกต้นไม้บนพื้น ทำได้โดยการติดตั้งที่เกี่ยวหรือตะแกรงด้านบนของพื้นที่ เลือกไม้ปลูกในกระถาง อาจจะเป็นไม้เลื้อยหรือกล้วยไม้ก็ได้ ตามความชอบ นำกระถางมาแขวนกับที่เกี่ยวหรือตะแกรงด้านบน การแขวนกระถางเราเลือกแขวนได้ตามความชอบ จะแขวนเรียงกันเป็นแนวหรือแขวนสูง ต่ำสลับกันไปก็ได้ สวนแบบนี้นอกจากจะให้พื้นที่สีเขียวแล้ว ยังให้ร่มเงากับพื้นที่สวนของเราได้                 แบบที่ 3 สวนบนพื้น สวนแบบนี้เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่ในการจัดสวนใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อย มีพื้นที่จัดวางหรือปลูกต้นไม้ได้ ในการจัดสวนแบบนี้เราสามารถเลือกลงต้นไม้ลงดินเลย หรือจะนำต้นไม้ลงกระถางและนำจัดวางตามรูปแบบที่ต้องการได้ ในจัดสวนแบบนี้ไม่ควรปลูกต้นไม้แน่นเกินไป เพราะจะทำให้ดูรก เราสามารถใช้หิน กระถางต้นไม้ ตุ๊กตา…

การตกแต่งภายในของบ้าน นอกจากจะเป็นการออกแบบเพื่อความสวยงาม ความสะดวกบายแล้ว การตกแต่งบ้านตามศาสตร์ของชาวจีนยังช่วยเสริมสิริมงคลให้กับเจ้าของบ้าน ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ไม่ว่าทำกิจการงานใดก็สำเร็จสมความปรารถนา ดังนั้นการตกแต่งบ้านจึงถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง  ว่าสิ่งใดควรมีสิ่งใดไม่ควรมีในการตกแต่งบ้าน ศาสตร์ของไทยเองก็เช่นเดียวกัน ให้ความสำคัญกับการตกแต่งบ้านเพื่อความเป็นอยู่ที่สุขสบาย อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง คนที่อยู่ในบ้านก็อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข เราได้นำ 5 ความเชื่อในการแต่งบ้านแบบไทย มาให้ดูกันไว้สำหรับใครที่กำลังจะแต่งบ้านหรือต้องการปรับปรุงบ้านใหม่   1.หิ้งพระหันหน้าทิศเหนือหรือตะวันออก หิ้งพระเป็นของที่อยู่คู่กับบ้านของคนไทย บางบ้านไม่มีห้องพระแต่ก็มีการติดตั้งหิ้งพระไว้ สำหรับตำแหน่งที่ใช้ในการติดตั้งหิ้งพระนั้น เรามีข้อกำหนดในการติดตั้งหิ้งพระไว้ดังนี้ หันหน้าไปทางทิศเหนือหรือทิศตะวันออก ห้ามหันไปทางทิศตะวันตกหรือใต้ ห้ามหันหน้าเข้าประตูห้องน้ำ ส่วนความสูงในการติดตั้งหิ้งพระนั้น เราสามารถกำหนดเองได้ แต่ก็ไม่ควรต่ำหรือสูงเกินไป ควรให้สูงขึ้นเหนือศีรษะเล็กน้อย พอที่เราจะสามารถนำ ธูป เทียนเครื่องบูชาขึ้นไปวางได้อย่างสะดวก แต่ก็ไม่ต่ำจนเดินผ่านแล้วทำให้ศีรษะชนหิ้งพระ จะเป็นอันตรายต่อคนที่อยู่อาศัยในบ้านเรือนได้   2.หัวนอนห้ามอยู่หน้าห้องน้ำ ทิศของหัวนอนไม่ควรอยู่ตรงกับประตูห้องน้ำ หน้าต่างและประตู ตามความเชื่อการหันหัวนอนไปทางประตูห้องน้ำ หน้าต่างและประตูนั้น จะทำให้คนที่นอนอยู่นั้นเกิดความเดือนร้อน มีปัญหาเข้ามาไม่ขาดสายแต่ในความเป็นจริงแล้ว การที่ไม่ให้หันหัวหลับนอนไปทางประตูห้องน้ำ หน้าต่างและประตู เพราะว่าตำแหน่งดังกล่าวจะมีลม ความชื้นพัดเข้ามาอยู่ตลอด เวลาที่เราจะนอนหลับอาจจะทำให้ศีรษะของเราได้รับความชื้น อาจจะทำให้เราเจ็บป่วย ไม่สบายได้   3.ห้องครัวต้องสะอาด ห้องครัวเปรียบเป็นขุมทรัพย์ของบ้าน เป็นห้องที่ใช้สำหรับปรุงอาหารให้กับทุกคนในครอบครัวได้รับประทาน ห้องครัวต้องได้รับการตกแต่งที่เรียบง่ายเน้นความสะอาด เพราะถ้าห้องครัวสกปรกจะทำให้คนในบ้านเจ็บป่วย…

คนไทยและความเชื่อเป็นสิ่งที่คู่กันมายาวนาน ไม่ว่าจะทำการสิ่งใดนั้นคนไทยต้องมีความเชื่อและข้อปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างบ้านซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับครอบครัวไปตลอดชีวิต การจะสร้างบ้านแต่ละหลังจึงถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับครอบครัว ความเชื่อแต่ละข้อมีทั้งที่มีเหตุมีผลและไม่มีเหตุผลแต่เป็นความเชื่อที่สืบต่อกันมา วันนี้เราได้รวม 7ข้อห้ามในการปลูกสร้างบ้านของคนไทยไว้ดังนี้   1.ห้ามปลูกบ้านบนทางสามแพร่งการเลือกทำเลที่ตั้งในการปลูกบ้าน เราไม่ควรปลูกบ้านบนทางสามแพร่ง ตามความเชื่อที่ว่านั้นคือทางสามแพร่งจะเป็นทางผีผ่าน เมื่ออยู่แล้วคนในบ้านจะทำมาหากินไม่เจริญ ทำการสิ่งใดก็ติดขัดพบเจอแต่ปัญหา แต่ในความเป็นจริงแล้ว ที่ไม่ให้ปลูกบ้านตรงทางสามแพร่ง เนื่องจากถ้าเราปลูกบ้านตำแหน่งตรงทางสามแพร่งแล้วนั้น บ้านเราจะตรงกับถนน อาจจะเกิดอุบัติเหตุจากการที่รถพุ่งเข้ามาในบ้านได้ โดยที่ไม่ตั้งใจทำให้คนในบ้านบาดเจ็บหรือล้มตายได้ จึงไม่ให้ปลูกบ้านบริเวณทางสามแพร่ง   2.ห้ามยกบ้านเดือนคี่การยกบ้านหรือยกเสาเอกของบ้าน สำหรับคนไทยแล้วห้ามยกเสาเอกในเดือนคี่ (เดือนไทย) นั่นคือเดือนอ้าย, เดือน 3, เดือน 5, เดือน 7และเดือน 11 ยกเว้นเดือน 9 ที่สามารถยกเสาเอกสำหรับสร้างบ้านได้ ตามความเชื่อที่ว่าการสร้างบ้านในเดือนคี่ จะทำให้คนในบ้านไม่มีคู่ต้องมีการพลัดพรากจากกันไปเป็นเหมือนเลขคี่ แต่สำหรับเดือน 9 แล้วเป็นข้อยกเว้นเพราะเลข 9 มีความคล้องจองกับคำว่าก้าวหน้า   3.ห้ามปลูกบ้านขวางพระอาทิตย์ คนไทยมีความเชื่อเรื่องของเทพาอารักษ์ที่คอยปกปักและดูแลคนที่อยู่ในบ้าน ถ้าปลูกบ้านขวางพระอาทิตย์แล้ว ย่อมเป็นการหลบหลู่เทพาอารักษ์ที่คอยดูแลบ้าน ทำให้ท่านไม่พอใจ คนในบ้านจะมีแต่เรื่องเดือดร้อน เกิดการเจ็บป่วย แต่ในความเป็นจริงแล้วถ้าเราปลูกบ้านขวางพระอาทิตย์ คือการปลูกบ้านโดยมีประตูหน้าบ้านตรงกับพระอาทิตย์นั้น ในยามเช้าและยามเย็นแสงของพระอาทิตย์จะส่องเข้ามาในตัวบ้านตรงๆ ไม่มีกำแพงบัง ทำให้ภายในของตัวบ้านจะร้อนมาก…