คงมีให้พบเห็นบ่อยๆ โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ในโครงการต่างๆ ที่นิยมปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ร่มเงาในบริเวณพื้นที่ส่วนกลางซึ่งก็คือฟุตบาทหน้าบ้านเรานั่นเอง หากมองว่าการมีต้นไม้อยู่ริมข้างทางก็ร่มรื่นเย็นตาไปอีกแบบ โดยเฉพาะในตอนเที่ยงวันที่แสงแดดจะสะท้อนพื้นถนนเต็มๆ หากมีร่มเงาไม้มาช่วยดูดซับแสงสะท้อนและไอความร้อน ก็จะช่วยให้บริเวณหน้าบ้านรวมถึงตัวบ้านของเราไม่ร้อนจนเกินไปนัก แต่ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว การมีต้นไม้ใหญ่มาบดบังทัศนวิสัยของเจ้าของบ้านเวลามองออกไปนอกบ้านแล้วเจอต้นไม้ใหญ่ๆ แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมไปทั่วบริเวณนอกรั้วบ้านและอาจตรงประตูบ้านของเราพอดี ถือว่าเป็นการขัดขวางโชคลาภหรือ “กระแสพลังชี่” ไม่ให้ไหลผ่านเข้ามาภายในบ้านได้ นอกจากนี้รั้วทึบๆ สูงเกิน 2 เมตรก็ถือว่าเป็นการขัดลาภด้วยเช่นเดียวกัน หากมองตามหลักทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับทิศทางลม ต้นไม้ใหญ่ย่อมบดบังไม่ให้กระแสลมพัดผ่านเข้ามาภายในบริเวณบ้านได้สะดวก อีกทั้งในช่วงฤดูฝนหากมีกระแสลมแรงหรือฟ้าผ่าต้นไม้อาจหักโค่นลงมาและพาดสายไฟหน้าบ้านขาดซึ่งถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง รวมถึงรั้วทึบๆ ก็บดบังการไหลผ่านของกระแสลมเข้ามาสู่ตัวบ้านด้วยเช่นกัน บ้านสมัยใหม่จึงมักไม่นิยมทำรั้วทึบ ยิ่งบ้านที่มีพื้นที่น้อย เช่น ทาวน์เฮ้าส์ เพราะไม่อยากให้มองดูอึดอัดเหมือนโดนขังคุก แนวทางแก้ไข ▪ ต้นไม้ใหญ่ หากเป็นต้นไม้ที่ปลูกโดยโครงการเองส่วนใหญ่จะไม่นิยมย้ายออก สิ่งที่เราสามารถทำได้คือการช่วยสอดส่องดูแลโดยหากเห็นว่ากิ่งก้านของต้นไม้มันแผ่ปกคลุมหน้าบ้านเราจนบดบังทัศนวิสัยแล้ว ให้แจ้งทางโครงการหรือนิติบุคคลให้มาดำเนินการเล็มหรือตัดกิ่งออก ซึ่งความสูงของต้นไม้ไม่ควรเกินระดับสายไฟ แต่หากเป็นต้นไม้ที่เราปลูกเองภายในบ้านก็คงง่ายขึ้น แนะนำว่าไม่ควรปลูกไม้ใหญ่ชิดรั้วหน้าบ้าน หากต้องการปลูกเพื่อให้ได้ร่มเงาก็ต้องหมั่นคอยตัดกิ่งด้วยโดยเฉพาะบริเวณปลายยอด อีกวิธีหนึ่งที่คนนิยมและประหยัดเงินมากที่สุดคือการหากระจกนูนที่ใช้ติดตามสามแยกเพื่อให้รถที่วิ่งออกจากซอยสามารถมองเห็นรถที่วิ่งจากทางตรงได้ มาติดไว้บริเวณเหนือประตูบ้านเพื่อสะท้อนเงาต้นไม้ออกไปนอกบ้าน หรือทำให้มองดูว่าต้นไม้นั้นดูเล็กลงเมื่อมองผ่านกระจกนูน หากมองในด้านจิตวิทยาก็คงช่วยได้ในระดับหนึ่งเพราะทำให้เจ้าของบ้านรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง แต่ในแง่ความปลอดภัยหรือเรื่องกระแสลมแล้วกระจกนูนคงไม่สามารถช่วยอะไรได้หากต้นไม้ใหญ่โค่นลงมาใส่รั้วบ้านเราจริงๆ ▪ รั้วทึบ อาจแก้ไขโดยการเจาะรูผนังรั้วให้มีช่องโหว่ตรงกลางแล้วหาอิฐที่มีช่องลมหรือลวดลายต่างๆ มาประทับตกแต่งแทนให้ดูสวยงามและโปร่งตามากขึ้น โดย: ขายบ้านศรีราชา

วันนี้เรามาดูกันว่าโต๊ะทำงานนั้นมีส่วนทำให้การงานของเราก้าวหน้าประสบความสำเร็จหรือไม่แต่อีกอย่างเราจะต้องมีส่วนประกอบอย่างอื่นด้วยอย่างเราเป็นคนขยันเอาใจใส่ในการทำงานทำอะไรมักจะประความสำเร็จและต้องมีความอดทนด้วยสำหรับฮวงจุ้ยนั้นเป็นเสริมดวงชะตาโชคลาภก็จะมาเองหากเราจัดโต๊ะทำงานให้ถูกหลักฮวงจุ้ย การจัดโต๊ะทำงานจะทำให้เราไม่จำเจในสิ่งที่เดิมได้เปลี่ยนบรรยากาศใหม่ๆและพลังงานที่ดีใหม่ๆก็จะเข้ามาหาเอง หลักการจัดโต๊ะทำงานให้ถูกหลักฮวงจุ้ยจะมีดังต่อไปนี้ 1.ไม่ควรจัดโต๊ะทำงานให้ตรงประตู เพราะว่าคุณจะเจอแต่เรื่องที่วุ่นวายเจอแต่ปัญหาและอุปสรรคต่างในเวลาที่เราเปิดประตูเข้าๆออกๆนั้นจะมีพลังงานอย่างหนึ่งเข้าหากท่านใดที่ชอบทำงานออกไปพบปะลูกค้าภายนอกการนั่งอยู่ประจำโต๊ะจะดีกว่า 2.ไม่ควรนั่งหันหลังให้กับประตู เพราะจะทำให้เสียชื่อเสียง มีคนมานินทาเราได้ 3.อย่าหันหน้าหรือหันข้างเข้าหาประตู เพราะจะเจอแต่เรื่องวุ่นวายเข้ามาในชีวิต 4.อย่านั่งตรงกับประตูห้องน้ำ จะทำให้คนอื่นคิดว่าคุณเป็นคนที่แย่ที่สุด อีกอย่างยังทำให้กีดขวางทางเดินเข้าห้องน้ำอีกเพราะจะปล่อยพลังชิออกมาทำลายเราได้ง่าย ทำให้เราเสียสุขภาพ ทางแก้ก็คือ หาม่านหรืออะไรมาปิดบังเอาไว้ 5.อย่าให้โต๊ะทำงานอยู่ติดชิดกับเสา เพราะว่าตามหลักฮวงจุ้ยเสาคือสิ่งที่รับน้ำหนัก จะทำให้เจอแต่เรื่องซีเรียสตลอดเวลา ทางแก้คือ เอาโต๊ะออกห่างจากเสาอย่าให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของโต๊ะชิดติดเสา 6.อย่าให้โต๊ะทำงานอยู่ใต้คาน เพราะคานเป็นส่วนหนึ่งทีมีโลหะอยู่และจะส่งผลต่อบุคคลที่นั่งทำงานอยู่ในคานนั้นจะมีคลื่นแม่เหล็กเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้และยังเป็นฮวงจุ้ยที่ขัดขวางความก้าวหน้า ทางแก้ก็คือ ให้ติดหลอดไฟให้สว่างไปทั่วแสงสว่างจะกระจายพลังงานที่ไม่ดีออกไป 7.จัดโต๊ะทำงานให้หันหน้าเข้าหากัน จะทำให้เกิดความสามัคคี 8.อย่าให้มีกระจกเงาอยู่ด้านหลัง  ทางแก้หาโต๊ะหรืออะไรมาขั้นไว้ 9.อย่าให้ผนังของโต๊ะขรุขระ จะทำให้การทำงานมีแต่อุปสรรค  ทางแก้คือหารูปสวยๆมาปิดผิวขรุขระไว้จะดีกว่า 10.อย่าวางของบนโต๊ะทำงานเยอะเกินไป เนื่องจากจะทำให้เจอปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน ไม่รู้จบ หารูปคู่หรือรูปครอบครัวที่อบอุ่น จะทำให้เกิดกำลังใจในการทำงาน แนะนำให้เอารูปที่ใหม่ๆอย่าเอารูปเก่าๆสมัยก่อนมาติดบนโต๊ะทำงาน 12.อย่าเอาต้นตะบองเพชรมาวางบนโต๊ะทำงาน เพราะหลักฮวงจุ้ยถือว่าหนามแหลมจากต้นตะบองเพชร เหมือนกับมาทิ่มแทงเราทำให้เจอแต่ปัญหาและอุปสรรคตลอดเวลา 13.อย่าเอาของกินวางบนโต๊ะทำงาน เนื่องจากว่ากลิ่นเน่าเหม็นของอาหารจะทำให้พลังดีๆออกไปจากจากห้องทำงานของเรา           ทั้งหมดนี้เป็นเคล็ดลับในการจัดโต๊ะทำงานที่จะทำให้การทำงานของเรามีแต่ความราบรื่นไม่มีปัญหาและอุปสรรคอะไรเข้าเกี่ยวคงจะเป็นตามหลักของฮวงจุ้ยที่ได้กล่าวไว้ สังเกตได้ว่าทำไมบางคนทำงานเจอแต่เรื่องซีเรียสทุกๆวันคงจะเป็นเพราะว่าโต๊ะทำงานของเขามีอะไรที่จัดผิดหลักฮวงจุ้ยก็ได้ ดังนั้นหากใครที่เจอแต่ปัญหาในการทำงานทั้งๆที่ทำงานด้วยความตั้งใจแต่ก็ยังเจอแต่เรื่องเครียดเข้ามาทุกวัน คุณลองมาสำรวจดูตะทำงานของคุณดูบ้างว่ามีอะไรที่ทำผิดหลักของฮวงจุ้ยบ้าง จากนั้นก็รีบแก้ไขตามที่ได้กล่าวมาทั้งหมดดู แล้วการทำงานของคุณจะเจอแต่สิ่งดีๆก็ได้ โดย: ขายบ้านศรีราชา

การแต่งบ้านในปัจจุบัน นอกจากจะเน้นความสวยงามแล้ว หลายคนยังให้ความสำคัญกับหลักฮวงจุ้ย เนื่องด้วยความเชื่อของชาวจีนที่สืบต่อกันมาว่าบ้านลักษณะไหนอยู่แล้วดี อยู่แล้วรวย จึงทำให้การแต่งบ้านให้ถูกหลักฮวงจุ้ยได้รับ           ความนิยมเป็นอย่างมาก วันนี้เอาใจคนรักการแต่งบ้านตามศาสตร์นี้โดยเฉพาะ             เรามีไอเดียการแต่งบ้านสวยรวยทรัพย์ด้วยของแต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ยมานำเสนอค่ะ   แต่งบ้านด้วยหินคริสตัลเสริมโชคลาภ         เชื่อกันว่าหินคริสตัลสามารถช่วยดึงดูดโชคลาภเงินทองได้ ดังนั้นการแต่งบ้านด้วยหินคริสตัลจึงถือว่าเป็นการช่วยเสริมดวงทางด้านทรัพย์ให้แก่เจ้าของบ้าน           ซึ่งหินคริสตัลที่นิยมนำมาแต่งบ้านเพื่อเสริมฮวงจุ้ยในด้านการเงินคือ หยก และไพไรต์   แต่งบ้านด้วยกระจกเงาช่วยเพิ่มพูนทรัพย์ให้มีมากขึ้น         การแต่งบ้านด้วยกระจกเงา เชื่อกันว่าสามารถเพิ่มพูนทรัพย์ให้เจ้าของบ้านได้ โดยนำกระจกเงามาแต่งในบริเวณที่เก็บของมีค่า และของมงคลต่าง ๆ อย่างอัญมณีรูปปั้น เป็นต้น จะช่วยสะท้อนให้มีทรัพย์งอกเงยเพิ่มมากขึ้น   แต่งบ้านด้วยรูปภาพช่วยเสริมทรัพย์         การใช้รูปภาพมาประดับตกแต่งบ้านสามารถเสริมพลังฮวงจุ้ยในเรื่องของการเงินได้ เช่น รูปภาพน้ำตก แม่น้ำ ทะเล ภูเขา เป็นต้น โดยต้องเป็นภาพที่สวยงาม มีการเคลื่อนไหวของน้ำ และให้พลังงานของธรรมชาติ   แต่งบ้านด้วยต้นไม้มงคลเสริมดวงทางการเงิน         เพิ่มความเป็นธรรมชาติให้บ้านด้วยการนำต้นไม้มาแต่งบ้าน และถ้ายิ่งเป็นต้นไม้มงคลช่วยเสริมดวงการเงินอย่าง ต้นศุภโชค ต้นไผ่กวนอิม หรือว่านเศรษฐีเรือนใน เป็นต้น ก็จะยิ่งช่วยเสริมโชคลาภมากขึ้น   แต่งบ้านด้วยตู้ปลาเสริมฮวงจุ้ย         การแต่งบ้านด้วยตู้ปลาจะช่วยเสริมฮวงจุ้ยทางด้านการเงิน…

การแต่งบ้านด้วยต้นไม้นอกจากจะช่วยสร้างความร่มรื่น สดชื่น เย็นสบายให้บ้านของคุณแล้ว หลายคนยังมีความเชื่อว่าการปลูกต้นไม้ที่เป็นมงคลจะช่วยให้บ้านสงบสุข ร่มเย็น และช่วยเสริมดวงให้ดีขึ้นอีกด้วย หากคุณกำลังมองหาต้นไม้สำหรับแต่งบ้านเพื่อเพิ่มความสวยงาม และช่วยส่งเสริมความโชคดีอยู่แล้วล่ะก็ วันนี้เรามีต้นไม้มงคลแต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ยมาแนะนำค่ะ   ต้นไม้มงคลแต่งบ้านสริมฮวงจุ้ยด้านการเงิน ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วทิศตะวันออกเฉียงใต้เป็นทิศแห่งความมั่งคั่ง ร่ำรวย และอุดมสมบูรณ์ การปลูกต้นไม้ในบริเวณทิศนี้จะช่วยเสริมดวงทางด้านการเงินได้เป็นอย่างดี ซึ่งไม้มงคลที่นิยมนำมาปลูกแต่งบ้านมีดังนี้ -ไผ่กวนอิม ไผ่กวนอิมเป็นต้นไม้มงคลที่ช่วยเสริมโชคลาภด้านเงินทอง และความร่ำรวยให้แก่เจ้าของบ้าน โดยมีความเชื่อว่าถ้าปลูก 8 ต้นจะช่วยหนุนเรื่องเงินทองและความมั่งคั่ง ปลูก 9 ต้นจะช่วยเรื่องโชคลาภ ซึ่งนอกจากจะช่วยเสริมดวงทางด้านการเงินแล้วยังช่วยดูดซับสารพิษ ทำให้อากาศภายในบ้านสดชื่นอีกด้วย -ว่านรวยไม่เลิก         ว่านรวยไม่เลิกเป็นต้นไม้มงคลที่ช่วยเสริมโชคทางด้านการเงิน เชื่อกันว่าปลูกแล้วจะทำให้ร่ำรวย และถ้ามีดอกออกจะทำให้เจ้าของบ้านได้รับโชคลาภ ว่านชนิดนี้สามารถปลูกในที่ร่มได้ ซึ่งเหมาะสำหรับปลูกภายในบ้านอย่างห้องนั่งเล่นเพื่อเพิ่มความสดชื่นเป็นอย่างมากเลยทีเดียว – โป๊ยเซียน โป๊ยเซียนเป็นต้นไม้นำโชคลาภที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมีความเชื่อว่าหากบ้านไหนโป๊ยเซียนออกดอก 8 ดอก ก็จะได้รับโชคลาภในไม่ช้า ซึ่งนอกจากโป๊ยเซียนจะช่วยเสริมโชคลาภแล้ว สีสันสดใสของดอกยังช่วยเพิ่มความสวยงามให้บ้านได้เป็นอย่างดีอีกด้วย   ต้นไม้มงคลแต่งบ้านสริมฮวงจุ้ยด้านความรัก ทิศตะวันตกเฉียงใต้ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วถือว่าเป็นทิศที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ และความรัก การปลูกต้นไม้ และดอกไม้ที่มีสีสันสดใสในบริเวณทิศนี้จะช่วยเสริมดวงทางด้านของความรักได้เป็นอย่างดี โดยต้นไม้มงคลที่มักนำมาปลูกเสริมสิริมงคลด้านความรักคือ -ว่านเสน่ห์จันทร์ขาว         การปลูกว่านเสน่ห์จันทร์ขาวไว้ในบ้านเชื่อว่าจะช่วยเสริมดวงในเรื่องความรัก สำหรับคนโสดจะช่วยเพิ่มเสน่ห์ และทำให้สมหวังในรัก…

หากพูดถึงองค์ประกอบห้องต่างๆ ภายในบ้านแล้วล่ะก็ “ห้องครัว” นั้นถือได้ว่ามีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าห้องอื่นๆ เลย เพราะชีวิตคนเรานั้น “กองทัพต้องเดินด้วยท้อง” หากปล่อยให้ท้องหิวไส้กิ่วจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปทำสิ่งดีๆ ให้กับชีวิต จริงมั้ยคะ? หลายคนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่อาจนิยมครัวฝรั่งแบบเปิดโล่ง สำหรับบ้านบางหลังห้องครัวหันหน้าออกประตูบ้านเป็นการรับแขกด้วยซ้ำไป ซึ่งหากมองในเรื่องของดีไซน์แล้ว คงไม่ผิดอะไรตรงไหนแถมโก้หรูไปอีกแบบสำหรับคนที่ชอบสไตล์แบบนั้น แต่หากพูดกันตามหลัก “ฮวงจุ้ย” แล้วอาจไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่นัก หากต้องการวางตำแหน่งห้องครัวเพื่อให้เกิดศิริมงคลและความอยู่ดีกินดีแก่คนในครอบครัวแล้วล่ะก็ อย่าลืมหลัก 3 ข้อนี้เป็นอันขาดเลยนะคะ ① ตำแหน่งห้องครัวควรอยู่หลังบ้านและไม่ควรหันออกไปทางประตูบ้าน ตามความเชื่อจะมองว่าหากครัวอยู่ตำแหน่งอื่นที่ไม่ใช่หลังบ้านจะเป็นการขัดโชคลาภที่จะไหลเข้ามาในบ้านผ่านทางประตูเพราะมีครัวไปบังไว้นั่นเอง แต่หากมองตามหลักวิทยาศาสตร์หรือหลักการง่ายๆ ตามธรรมเนียมไทย ครัวอาจไม่ใช่สิ่งที่คนไทยนิยมนำมาโชว์ให้แขกผู้มาเยือนได้เห็นกันสักเท่าไหร่ ยิ่งเป็นแขกที่ไม่สนิทด้วยแล้ว เพราะครัวคือบ่อเกิดแห่งสารพัดกลิ่นอาหาร ถึงแม้ว่าคุณจะติดเครื่องกรองอากาศหรือดับกลิ่นช่วยแล้วก็ตาม อีกทั้งด้วยสภาพอากาศบ้านเราที่เป็นเมืองร้อน เวลาที่คุณแม่บ้านกำลังสาละวนอยู่กับการเตรียมอาหาร หน้าตาก็อาจจะยังไม่ได้แต่ง แถมมันเยิ้มไปด้วยคราบน้ำมันที่เพิ่งผัดผักรวมหรือทอดปลาเสร็จไปหมาดๆ แล้วบังเอิญมีแขกเดินเข้ามาในบ้านพร้อมคุณสามี คงพอนึกภาพกันออกใช่มั้ยคะว่าคุณแม่บ้านคงอยากจะแทรกแผ่นดินหนีกันเลยทีเดียว หากคุณซื้อบ้านที่มีครัวอยู่ในตำแหน่งที่กล่าวมา อาจนำม่านหรือมู่ลี่หรือฉากกั้นเก๋ๆ มาติดตั้งหรือวางไว้หน้าห้องครัวก็อาจจะพอช่วยให้ครัวมีความเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น ② ไม่ควรอยู่ติดห้องน้ำ ความเชื่อนี้อธิบายได้ชัดเจนตามหลักสุขอนามัย เพราะหากมีสมาชิกในบ้านเกิดมีอาการท้องเสียท้องร่วง หรือบังเอิญได้รับเชื้ออวิหาตกโรคและห้องครัวอยู่ใกล้กับห้องน้ำแล้วล่ะก็ อาจมีการกระจายของเชื้อโรคไปสู่อาหารและทำให้สมาชิกคนอื่นๆ ติดเชื้อโรคไปด้วยนั่นเอง ทางที่ดีเวลาเลือกซื้อบ้านควรเลือกแบบบ้านที่มีระยะห่างระหว่างครัวและห้องน้ำพอสมควรก็จะช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ ③ ไม่ควรวางตำแหน่งเตาไฟใกล้กับก๊อกน้ำ น้ำกับไฟ ใครๆ ก็ย่อมทราบกันดีอยู่แล้วว่าเข้ากันไม่ได้ หากเราวางตำแหน่งเตาไฟไว้ใกล้กับก๊อกน้ำ โดยเฉพาะครัวสมัยใหม่ที่อาจนิยมใช้เตาไฟฟ้าหรือเตาที่จุดด้วยระบบไฟฟ้าแล้วล่ะก็ โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุย่อมมีได้อย่างแน่นอนค่ะ…